ตลาดหุ้นโลกปิดตลาดเมื่อคืนนี้ (5 พฤษภาคม 2558) ร่วงลงทั้งตลาหุ้นอเมริกาและยุโรป โดยดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,928.20 จุด ร่วงลง 142.20 จุด หรือ -0.79%, ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,939.33 จุด ลดลง 77.60 จุด หรือ -1.55% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,089.46 จุด ลดลง 25.03 จุด หรือ -1.18%

ขณะตลาดหุ้นยุโรปปิดในแดนลบเช่นกัน โดยดัชนี STOXX Europe 600 ร่วงลง 1.46% ปิดที่ 391.01 จุด ,ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปิดที่ 4,974.07 จุด ร่วงลง 107.90 จุด หรือ -2.12% ,ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมัน ปิดที่ 11,327.68 จุด ดิ่งลง 292.17 จุด หรือ -2.51% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดที่ 6,927.58 จุด ลดลง 58.37 จุด หรือ -0.84%

ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อตลาดหุ้นนิวยอร์ก ได้แก่ แรงกดดันจากข้อมูลกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุ ยอดขาดดุลการค้าเดือนมี.ค.ของสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับ 5.14 หมื่นล้านดอลลาร์ จากเดือนก.พ.ที่ระดับ 3.59 หมื่นล้านดอลลาร์ เนื่องจากยอดการนำเข้าสูงกว่ายอดส่งออก และตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของตลาดหุ้นทั่วโลกเมื่อวานนี้ โดยตลาดหุ้นจีนดิ่งลงไปกว่า 4% ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงอย่างหนัก อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้กรีซ

ส่วนปัจจัยที่มีผลกระทบต่อตลาดหุ้นยุโรป ได้แก่ รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลที่ว่ากรีซจะไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับกลุ่มเจ้าหนี้ของยูโรโซนได้ก่อนกำหนดการชำระ หนี้มูลค่า 750 ล้านยูโร หรือ 832 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ในสัปดาห์หน้า ขณะที่นักลงทุนกังวลว่ากรีซจะเผชิญกับภาวะขาดแคลนเงินสด นอกเสียจากว่ากรีซจะสามารถบรรลุข้อตกลงกับเจ้าหนี้เพื่อให้มีคุณสมบัติในการ รับความช่วยเหลือทางการเงินรอบใหม่ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับแรงกดดันจากการรายงานสหรัฐมียอดขาดดุลการค้าเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น