สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 07 พฤษภาคม 2558ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,181.40-1,192.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,800 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,800 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFM15 อยู่ที่ 18,920 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 40 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,910 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 17.20 น.ของวันที่ 07/05/15)

แนวโน้มวันที่ 8 พฤษภาคม 2558
กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนเมษายนในวัน ศุกร์นี้ โดยผลสำรวจคาดว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรอาจเพิ่มขึ้น 224,000 ตำแหน่งในเดือนเมษายน หลังจากเพิ่มขึ้น 126,000 ตำแหน่งในเดือนมีนาคมและอัตราการว่างงานอาจอยู่ที่ 5.4% ในเดือนเมษายน ลดลงจาก 5.5% ในเดือนมีนาคม แนวโน้มตลาดแรงงานสหรัฐที่แข็งแกร่งมากขึ้นทำให้นักลงทุนในตลาดทองคำลดการ ถือครองทองคำลงเพื่อควบคุมความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาทองคำในช่วงการ เปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ ขณะที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐ สาขาแอตแลนตา(นายเดนนิส ล็อคฮาร์ท) กล่าวว่า สถานการณ์เอื้ออำนวยให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงกลางปีนี้ ถึงแม้เศรษฐกิจอยู่ในภาวะอ่อนแอในช่วงต้นปีนี้ และเขากล่าวว่าการที่ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะเริ่มต้นปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยใน เดือนกันยายนเป็นสิ่งที่สอดคล้องอย่างสมเหตุสมผลยิ่งเพิ่มแรงขายเข้ามายัง ตลาดทองคำ

อย่างไรก็ตาม ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินเคลื่อนตัวอยู่ใกล้จุดต่ำสุดในรอบ 2 เดือน ได้เป็นปัจจัยบวกพยุงราคาทองคำไว้โดยดัชนีดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดันจากการ แข็งค่าขึ้นของสกุลเงินยูโรที่ได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทน พันธบัตรรัฐบาลเยอรมนี ทั้งนี้การอ่อนค่าของค่าเงินบาทยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลบวกต่อราคา ทองคำในประเทศ หลังจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย, การออกมาตรการเงินทุนเคลื่อนย้ายอย่างเสรีที่มีต่อเนื่อง ทำให้มีการปิดความเสี่ยงฐานะเงินตราต่างประเทศด้วย ซึ่งค่าเงินบาทต่อดอลลาร์อ่อนค่าสุดในรอบกว่า 5 ปี ที่ 33.59 เบื้องต้นราคาทองคำเมื่อมีการขยับขึ้นยังคงมีแรงขายออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งราคาทองคำหากมีการเคลื่อนตัวขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ยังไม่สามารถทะลุไปได้ ต้องระมัดระวังแรงกดดันเชิงเทคนิคซึ่งจะส่งผลให้เกิดการอ่อนตัวของราคาทองคำ ได้

กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้จะทำให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงมา โดยหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับ 1,173-1,160 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาน่ากลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านอีกครั้ง แต่หากยืนไม่ได้ต้องระมัดระวังแรงขายที่ออกมาอาจทำให้ราคาย่อตัวลงสู่แนวรับ ถัดไป สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือรอดูบริเวณ 1,173 หรือ 1,160 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนได้อย่างมั่นคง ถือเป็นจุดซื้อเก็งกำไรระยะสั้นอีกครั้ง แต่หากราคาหลุดแนวรับ 1,160 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้ชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์

                 ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ        1,173 (18,630บาท)       1,160 (18,420บาท)          1,152 (18,290บาท)
แนวต้าน      1,200 (19,060บาท)       1,207 (19,170บาท)          1,215 (19,300บาท)     

           GOLD FUTURES (GFM15)
แนวรับ        1,173 (18,790บาท)       1,160 (18,590บาท)          1,152 (18,460บาท)
แนวต้าน      1,200 (19,230บาท)       1,207 (19,340บาท)          1,215 (19,470บาท)