|
|
|
|
|
|
กลยุทธ์วันนี้ Selective Buy
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ ยังคงปรับตัวลงตามภาพรวมของเอเชีย อีกทั้งขาดปัจจัยเชิงบวกต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทย แม้ว่าผลการดำเนินงานที่ทยอยประกาศออกมาจะใกล้เคียงที่ตลาดคาดการณ์เป็นส่วน ใหญ่ก็ตาม แต่ด้วยค่าเงินบาทที่อ่อนค่า ทำให้นักลงทุนเลือกที่จะลดพอร์ตการลงทุนเพิ่มเติม กดดันให้ SET INDEX ลบอีก 15.58 จุด มาอยู่ที่ 1,485.72 จุด มูลค่าการซื้อขาย 36,252 ล้านบาท
ค่าเงินบาทอ่อนค่าค่อนข้างมากเป็นวันที่ 2 และต่างชาติขายสุทธิทั้ง 3 ตลาดในไทยพร้อมกันอีกครั้ง ขายสุทธิตลาดหุ้น 1,198 ล้านบาท Short สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 5 มากถึง 9,174 สัญญา และขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 5 อีก 838 ล้านบาท น่าจะเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นๆ ใน TIP จากสถานการณ์การลงทุนในตลาดหุ้นทั่วเอเชียไม่เอื้อ
ปัจจัยสำคัญวันนี้
บลจ.กสิกรไทย ออกขาย IPO กองทุนทริกเกอร์ฟันด์ วงเงิน 1.5 พันล้านบาท เป้า 6% ระหว่างวันที่ 13-15 พ.ค.
น้ำมันดิบ NYMEX กลับมาปิดยืนเหนือ US$60/barrel อีกครั้ง ปิดที่ US$60.75 เป็นบวกต่อกลุ่มพลังงาน/ปิโตรเคมี
MSCI ประกาศผลการปรับดัชนี
MSCI Thailand Index: ไม่มีการปรับเข้า – ออก
MSCI Thailand Global Small Cap:
เข้า: BA / BEAUTY / CBG/ EPG/ IMPACT GROWTH REIT / IFEC/ MTLS/ PLANB/ PTG/ SIM/ SCN/ TSE/ UNIQ / WORK
ออก: JMART / TPIPL
มุมมองต่อตลาด
เราคงมุมมองเป็น “กลาง” วันที่ 32 และภาพความอ่อนแอของบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย และ SET INDEX โดยแนวรับสำคัญ 1,475-1,480 จุด น่าจะเกิด Technical Rebound ลักษณะ Divergence กลับขึ้นไปทดสอบแนว 1,500 จุดอีกครั้ง แม้ว่ามูลค่าการซื้อขายจะยังคงเบาบาง และทำให้ภาพรวมการลงทุนยังเป็นไปอย่างเปราะบางก็ตาม ทั้งนี้ปัจจัยที่จะทำให้เกิดภาพดังกล่าวคือ ราคาน้ำมันดิบกลับมายืนเหนือ US$60/barrel สำหรับ NYMEX อีกครั้ง ขณะที่กลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีปรับตัวลงตลอด 4 วันทำการที่ผ่านมา -4.45% และ -4.45% ตามลำดับ น่าจะเกิด Sentiment เชิงบวก
ขณะที่การประชุมครม.วานนี้ นายกฯ ยืนยันที่จะเร่งการใช้จ่ายภาครัฐ โดยยืนยันเริ่มโครงการสร้างถนนมอเตอร์เวย์ 2 เส้นทาง หลังกระทรวงการคลังยืนยันมีวงเงินกู้พร้อมสนับสนุน รวมถึงโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย – จีน ที่จะต้องเริ่มการก่อสร้างในปีนี้ ส่วนเส้นทางร่วมมือระหว่างไทย – ญี่ปุ่นรอเส้น MOC ในเดือนก.ค. เพื่อเริ่มขั้นตอนการพิจารณาในรายละเอียดโครงการ และเริ่มก่อสร้างในต้นปีหน้า ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีของภาพรวมเศรษฐกิจใน 2H58
เป็นที่น่าสนใจว่า การทยอยประกาศงบ 1Q58 ของบริษัทจดทะเบียนตลาดหุ้นไทย ณ ปัจจุบัน ทำให้ตลาดปรับประมาณการ EPS ปี 2558 ของตลาดหุ้นไทยผ่าน Bloomberg consensus เท่ากับ 100.22 บาท เทียบกับ ณ สิ้นเดือนมี.ค.ที่ 101.83 บาท ปรับลดเพียง 1.58% เราเชื่อว่าการปรับประมาณการปี 2558-2559 ของตลาดจะเป็นไปอย่างจำกัด เพราะผลการดำเนินงานออกมาใกล้เคียงคาด น่าจะช่วยประคองภาพการลงทุนในช่วงสั้นนี้ต่อไปได้อีกระยะหนึ่ง เพื่อรอความคืบหน้าของโครงการขนาดใหญ่จากภาครัฐ
เช้านี้ตลาดหุ้นเอเชีย (7.37 น.) Nikkei เปิดลบเล็กน้อย เพราะCurrent Account เกินดุลสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2551 ส่วน Kospi เปิดบวกเล็กน้อย
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ “นักลงทุนยังคงใช้กลยุทธ์ ขึ้นแรงขาย – ลงแรงซื้อ” เป็นอีกสักระยะหนึ่ง
Top Pick in 2Q15: ITD / TASCO / TPIPL/ WHA
HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ ADVANC/ MONO / TASCO/ WHA/ THAI/ BCP
Accumulative Buy: IFEC
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ “ทยอยสะสม” ได้แก่
1. IFEC : ราคาปิด 9.75 บาท ราคาเหมาะสม 18.00 บาท
a) MBKET คาดว่าราคาหุ้น IFEC จะตอบรับเชิงบวก หลัง MSCI ประกาศเพิ่ม IFEC เข้าสู่ดัชนี MSCI Global Small Cap มีผลบังคับใช้วันที่ 29 พ.ค.
b) และ IFEC จะรายงานผลประกอบการ 1Q58 ในวันนี้ คาดว่าจะมีกำไรสุทธิราว 20 ล้านบาท จากการรับรู้รายได้ของธุรกิจโซลาร์ฟาร์มในประเทศ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เมื่อเทียบกับ 4Q57 ที่ขาดทุนสุทธิ 15 ล้านบาท และ 1Q57 ขาดทุนสุทธิ 6 ล้านบาท
c) แนวโน้มผลการดำเนินงานจะยกฐานกำไรขึ้นอย่างมีนัยสำคัญใน 2H58 จากการทยอยรับรู้รายได้ของโครงการโซลาร์ฟาร์มจากกัมพูชา 20MW แรก และโครงการโรงไฟฟ้าพลังลมแห่งแรกจำนวน 10 MW ที่ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช
d) คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2558 ที่ 459 ล้านบาท +238.1% yoy และ +282.0% yoy เป็น 1,753 ล้านบาท ในปี 2559
e) การปรับตัวลงของราคาหุ้นส่งผลให้ Valuation มีความตึงตัวลดลง และมีความน่าสนใจ เนื่องจากซื้อขายที่ระดับ PER 2558 ที่ 40.6 เท่า และลดลงเหลือ 10.8 เท่าในปี 2559
f) จะขึ้น XD หุ้นปันผลสัดส่วน 20 ต่อ 1 ในวันที่ 14 พ.ค. และ XW ใบแสดงสำคัญสิทธิ (Warrant) สัดส่วน 4 ต่อ 1 ในวันที่ 25 มิ.ย
Fund Flow Analysis
und Flow in Emerging Markets
ตลาดหุ้นเอเชียกลับขายสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ US$14 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$217 ล้าน
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติลดน้ำหนักการลงทุนในไทยทั้ง 3 ตลาดพร้อมกันอีกครั้ง
นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง 1,198 ล้านบาท และทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิขยับขึ้นเป็น 8,422 ล้านบาท เมื่อบรรยากาศรอบเอเชียไม่เอื้อต่อการลงทุน
ด้าน SET50 Index Futures วานนี้ นักลงทุนต่างชาติคงการ Short สุทธิเป็นวันที่ 5 มากถึง 9,174 สัญญา รวม 5 วันทำการ Short สุทธิ 24,060 สัญญา ทำให้ S50M15 ปิดต่ำกว่า SET50 Index เป็นวันที่ 2 เท่ากับ 1.01 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 2.47 จุด เชื่อว่าเป็นการเร่งปิดสถานะ Long ที่เปิดไว้ก่อนหน้านี้ และกดดันให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้มีสถานะ Long เหลือเพียง 596 สัญญา เท่านั้น ซึ่งมีโอกาสที่นักลงทุนกลุ่มนี้จะกลับมาเป็น short สุทธิใน SET50 Index Futures อีกครั้งในระยะอันใกล้นี้
ขณะที่ตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิเป็นวันที่ 5 อีก 838 ล้านบาท ชะลอตัวจากวันก่อนหน้า และทำให้ 5 วันทำการ ขายสุทธิ 18,301 ล้านบาท ขณะที่ราคาพันธบัตรไทยกลับมาปรับตัวลงแรงอีกครั้ง ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย อายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นถึง 11.36bps ปิดที่ 2.8656%
เงินทุนต่างชาติที่ขายสุทธิทั้ง 3 ตลาดในไทย น่าจะเป็นการขายและนำเงินออก เพราะเงินบาทอ่อนค่าแรงเป็นวันที่ 2 มากถึง 15 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐฯ ระหว่างชั่วโมงการซื้อขายในช่วงบ่าย |
บันทึกโดย : วันที่ :
13 พ.ค. 2558 เวลา : 12:16:52
|
|
|
|
|
ข่าวเด่น