ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดตลาดเมื่อคืนนี้ (17 มิถุนายน 2558) ปรับตัวขึ้นมาอยู่ในแดนบวกได้เพียงเล็กน้อย โดยดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,935.74 จุด เพิ่มขึ้น 31.26 จุด หรือ +0.17% , ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,064.88 จุด เพิ่มขึ้น 9.33 จุด หรือ +0.18% และดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,100.44 จุด เพิ่มขึ้น 4.15 จุด หรือ +0.20%
โดยปัจจัยบวกที่ผลักดันให้ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวได้ในแดนบวก ได้แก่ ผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ส่งสัญญาณว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้อาจจะไม่รวดเร็วอย่างที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันจากการที่เฟดปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้ โดยคาดว่าจะเติบโต 1.8%-2.0% จากเดิมที่คาดการณ์ในเดือนมี.ค.ที่ 2.3%-2.7% ขณะที่คงคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 2016 ที่ 2.4%-2.7% และปี 2017 ขยายตัวที่ 2.1%-2.5%
สำหรับตลาดหุ้นยุโรปยังคงได้รับผลกระทบจากกรณีปัญหาหนี้กรีซ โดยปิดตลาดเมื่อคืน (17 มิถุนายน 2558) ดัชนี Stoxx Europe 600 Index ปรับลง 0.5% ปิดที่ 383.74 จุด , ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปิดที่ 4,790.62 จุด ลดลง 49.24 จุด หรือ -1.02% , ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,978.01 จุด ลดลง 66.00 จุด หรือ -0.60% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดที่ 6,680.55 จุด ลดลง 29.55 จุด หรือ -0.44%
โดยนักลงทุนยังคงกังวลว่า ความไม่คืบหน้าในการเจรจาระหว่างกรีซและเจ้าหนี้ยุโรป อาจทำให้กรีซผิดนัดชำระหนี้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ในช่วงปลายเดือนนี้ และอาจกดดันให้กรีซต้องพ้นจากการเป็นสมาชิกยูโรโซน
ข่าวเด่น