ตลาดหุ้นทั่วโลกสดใส หลังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐบ่งชี้แข็งแกร่งขึ้น โดยตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิดเมื่อคืนนี้ (18 มิถุนายน 2558) เพิ่มขึ้น 180.10 จุด ที่ 18,115.84 จุด หรือ +1.00% , ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,132.95 จุด เพิ่มขึ้น 68.07 จุด หรือ +1.34% และดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,121.24 จุด เพิ่มขึ้น 20.80 จุด หรือ +0.99%

ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยดัชนี Stoxx Europe 600 ขยับขึ้น 0.1% ปิดที่ 384.22 จุด ,ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปิดที่ 4,803.48 จุด เพิ่มขึ้น 12.86 จุด หรือ +0.27% , ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมัน ปิดที่ 11,100.30 จุด เพิ่มขึ้น 122.29 จุด หรือ +1.11% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดที่ 6,707.88 จุด เพิ่มขึ้น 27.33 จุด หรือ +0.41%

โดยปัจจัยบวกที่ส่งผลต่อตลาดหุ้นโลก ได้แก่ ถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ระบุ เฟดจะยังคงจุดยืนด้านนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย แม้ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวันข้างหน้าก็ตาม  นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลกระทรวงแรงงานสหรัฐที่ระบุ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 13 มิ.ย. ลดลง 12,000 ราย สู่ระดับ 267,000 ราย โดยตัวเลขดังกล่าวยังคงต่ำกว่าระดับ 300,000 รายเป็นสัปดาห์ที่ 15 ติดต่อกัน ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่ง

ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนพ.ค. ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.5% ส่วนดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมราคาในหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.1% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีที่แล้ว

อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่นักลงทุนยังมีความกังวลและระมัดระวัง คือ การเจรจาหนี้กรีซที่ยังไม่มีความคืบหน้า