กรมควบคุมโรคออกประกาศ เรื่อง โรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง หรือ โรคเมอร์ส ฉบับที่ 2 ระบุว่า ที่ผ่านมาในไทยยังไม่พบรายงานผู้ป่วยยืนยันโรคเมอร์ส แต่อย่างไรก็ตามยังคงมีความเสี่ยงที่อาจพบการระบาดในประเทศได้เช่นเดียวกับ ประเทศต่างๆ โดยผ่านผู้เดินทางไปมาระหว่างประเทศที่มีการระบาดของโรค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้เดินทางไปแสวงบุญ ณ ราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย และกลุ่มนักท่องเที่ยว นักธุรกิจที่เดินทางมาในประเทศแถบตะวันออกกลางและสาธารณรัฐเกาหลี และเนื่องจากโรคเมอร์สสามารถแพร่กระจายผ่านละอองฝอยน้ำมูก น้ำลาย จากการไอ จาม ของผู้ป่วย รวมทั้งการสัมผัสกับสัตว์ที่เป็นแหล่งรังโรค เช่น อุฐ ดังนั้น กรมควบคุมโรค จึงออกประกาศแนะนำสำหรับผู้เดินทาง/นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปประเทศที่มี การระบาดของโรค โดยปัจจุบัน พบกว่า กลุ่มเสี่ยงที่จะมีอาการป่วยรุนแรง ได้แก่ ผู้มีโรคประจำตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผู้ป่วยเบาหวาน โรคปอดเรื้อรัง โรคไตวาย หรือผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำ ผู้สูงอายุ ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางไปในประเทศที่มีการระบาดในช่วงที่มีการระบาดของโรค สำหรับผู้เดินทางทั่วไปควรปฎิบัติ ดังนี้ 1.หากไม่จำเป็นควรหลีกเลี่ยงการเข้าไปในสถานพยาบาลในช่วงที่มีการระบาดของ โรค 2.หลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจ หรือผู้มีอาการไอ จาม 3. หลีกเลี่ยงการเข้าไปหรือสัมผัสฟาร์มสัตว์ หรือสัตว์ป่าต่างๆ หรือดื่มน้ำนมดิบ โดยไม่ผ่านการฆ่าเชื้อโรค โดยเฉพาะน้ำนมอูฐ ซึ่งอาจเป็นแหล่งรังโรคของเชื้อได้ 4.ปฏิบัติตามสุขอนามัย กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ ด้วยน้ำสบู่บ่อย ๆ 5.ถ้ามีอาการไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสคลุกคลีกับบุคคลอื่น เพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อ เมื่อไอ หรือจามควรใช้กระดาษชำระปิดปากและจมูกทุกครั้ง และทิ้งกระดาษชำระที่ใช้แล้วลงถังขยะที่ปิดมิดชิด และล้างมือให้สะอาด สวมหน้ากากอนามัยกรณีที่ไม่สามารถปฏิบัติได้ ควรไอหรือจามลงบนเสื้อผ้าบริเวณแขน ไม่ควรจามรดมือ และรีบพบแพทย์ หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทันที และ 6. หลังจากกลับจากการเดินทางหากภายใน14 วันมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ หรือมีน้ำมูก ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
ข่าวเด่น