วันนี้ (30 มิถุนายน ) ตัดสินชี้ชะตาหนี้กรีซ ตลาดหุ้นทั่วโลกผวากรีซผิดนัดชำระหนี้แน่ ส่งผลการซื้อขายตลาดหุ้นเมื่อคืนนี้ (29 มิถุนายน 2558) ทุกตลาดทั่วโลกดัชนีปรับตัวดิ่งลงแรง โดยตลาดหุ้นดาวโจนส์ของสหรัฐอเมริกา ดัชนีปิดที่ 17,596.35 จุด ร่วงลงถึง 350.33 จุด หรือ -1.95% , ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,958.47 จุด ลดลง 122.04 จุด หรือ -2.40% และดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,057.64 จุด ลดลง 43.85 จุด หรือ -2.09%

ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงแรงเช่นกัน โดยดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 2.6% ปิดที่ 386.43 จุด , ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปิดที่ 4,869.82 จุด ร่วงลง 189.35 จุด หรือ -3.74% , ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมัน ปิดที่ 11,083.20 จุด ดิ่งลง 409.23 จุด หรือ -3.56% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดที่ 6,620.48 จุด ลดลง 133.22 จุด หรือ -1.97%

ปัจจัยลบที่มีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อตลาดหุ้นทั่วโลก คงหนีไม่พ้นการชี้ชะตาอนาคตกรีซ เพราะหลายฝ่ายคาดการณ์ว่าวันนี้ ( 30 มิ.ย.) กรีซต้องผิดนัดชำระหนี้จำนวน 1.6 พันล้านยูโรให้แก่กองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟอย่างแน่นอน ซึ่งทำให้สถานะการเงินและสถานะของประเทศกรีซอยู่ในขั้นวิกฤติ เหตุการณ์นี้สืบเนื่องมาจากการที่ประชุมรัฐมนตรีคลังยูโรโซน (ยูโรกรุ๊ป) ปฎิเสธที่จะขยายความช่วยเหลือทางการเงินให้กับกรีซอีกแล้ว และอาจส่งผลให้กรีซต้องออกจากยูโรโซนอีกด้วย ประกอบกับธนาคารกลางยุโรป (ECB) ไม่ขยายเพดานเงินกู้ฉุกเฉิน หรือ Emergency Liquidity Assistance (ELA) ที่ให้กับภาคธนาคารของกรีซ จนทำให้รัฐบาลกรีซต้องตัดสินใจประกาศใช้มาตรการควบคุมเงินทุนและปิดธนาคารพาณิชย์จนถึงวันที่ 6 ก.ค.และส่งผลให้ประชาชนวิตกกังวลแห่มาถอนเงินยออกจากธนาคารพาณิชย์ของกรีซ อย่างไรก็ตาม การถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มถูกจำกัดการถอนไว้ที่ 60 ยูโร (65 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อวันเท่านั้นในช่วงเวลาที่ธนาคารปิดทำการ

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นทั่วโลกยังได้รับปัจจัยลบจากกรณีสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส (S&P) ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซ ลงสู่ระดับ CCC- จากระดับ CCC และยังคงให้แนวโน้มเป็นลบ พร้อมระบุว่า ความเป็นไปได้ที่กรีซจะต้องออกจากกลุ่มยูโรโซนั้นมีอยู่ถึง 50% ทีเดียว