ในที่สุดกรีซก็ไม่สามารถที่จะชำระหนี้มูลค่า 1.6 พันล้านยูโร ให้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟได้ตามกำหนดที่ต้องจ่ายวันที่ 30 มิ.ย.2558 โดยไอเอ็มเอฟออกมาแถลงการณ์เรื่องดังกล่าวหลังตลาดหุ้นนิวยอร์กและยุโรปปิดทำการแล้ว
อย่างไรก็ตาม ในส่วนตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (30 มิ.ย.) ได้มีนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหุ้นในตลาดนิวยอร์กหลังดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันจันทร์ที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา แม้จะยังคงจับตาการทำประชามติของประชาชนกรีซที่จะชี้ขาดว่าจะรับเงื่อนไขในข้อตกลงให้ความช่วยเหลือทางการเงินจากทางเจ้าหนี้หรือไม่ ทำให้ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ปรับตัวสูงขึ้นไปอยู่ในแดนบวกได้จากแรงซื้อเก็งกำไร โดยดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,619.51 จุด เพิ่มขึ้น 23.16 จุด หรือ +0.13% และดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,986.87 จุด เพิ่มขึ้น 28.40 จุด หรือ +0.57% ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,063.11 จุด เพิ่มขึ้น 5.47 จุด หรือ +0.27%
สำหรับตลาดหุ้นยุโรป นักลงทุนยังคงวิตกกังวลกับปัญหาที่กรีซผิดนัดชำระหนี้ไอเอ็มเอฟและอาจส่งผลให้กรีซต้องออกจากยูโรโซนในที่สุด ทำให้บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นยุโรปยังคงมีแต่แรงขายเหมือนเดิม จนทำให้ปิดตลาดเมื่อคืนนี้ (30 มิ.ย.) ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1.3% ปิดที่ 381.31 จุด และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปิดที่ 4,790.20 จุด ลดลง 79.62 จุด หรือ -1.63%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมัน ปิดที่ 10,944.97 จุด ร่วงลง 138.23 จุด หรือ -1.25% , ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดที่ 6,520.98 จุด ลดลง 99.50 จุด หรือ -1.50%
ข่าวเด่น