ตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา (7 กรกฎาคม 2558) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,776.91 จุด เพิ่มขึ้น 93.33 จุด หรือ +0.53% , ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,997.46 จุด เพิ่มขึ้น 5.52 จุด หรือ +0.11% , ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,081.34 จุด เพิ่มขึ้น 12.58 จุด หรือ +0.61%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวก เนื่องจากนักลงทุนช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากตลาดร่วงลงติดต่อกัน 2 วันทำการก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตำแหน่งงานที่เปิดรับสมัครโดยสถานประกอบการในสหรัฐทรงตัวที่ระดับ 5.4 ล้านตำแหน่งในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลในปี 2000 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงภาวะแข็งแกร่งของตลาดแรงงานสหรัฐ
ด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สหรัฐขาดดุลการค้าเพิ่มขึ้น 2.9% สู่ระดับ 4.187 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ค. ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่ายอดขาดดุลการค้าจะอยู่ที่ 4.25 หมื่นล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นในกรอบจำกัด เนื่องจากนักลงทุนยังคงระมัดระวังการซื้อขายและจับตาดูการเจรจาปัญหาหนี้ กรีซของบรรดาผู้นำยุโรป
ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดตลาดเมื่อคืนนี้(7 กรกฎาคม 2558) ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1.6% ปิดที่ 372.74 จุด , ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปิดที่ 4,604.64 จุด ร่วงลง 106.90 จุด หรือ -2.27% , ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,676.78 จุด ดิ่งลง 213.85 จุด หรือ -1.96% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดที่ 6,432.21 จุด ลดลง 103.47 จุด หรือ -1.58%
โดยตลาดหุ้นยุโรปที่ปิดในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลว่าปัญหาหนี้สินของกรีซอาจจะส่งผลให้กรีซต้องพ้นจากการเป็นสมาชิกยูโรโซน
การประชุมรมว.คลังยูโรโซนได้เสร็จสิ้นลงในช่วงเช้าวานนี้ที่กรุงบรัสเซลส์ โดยที่ยังไม่มีการทำข้อตกลงใดๆ ขณะที่นาย อเล็กซานเดอร์ สตับบ์ รมว.คลัง ฟินแลนด์ กล่าวว่า เขาหวังว่ากรีซจะยื่นขอความช่วยเหลือครั้งใหม่ภายในไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า และหลังจากนั้นกรีซจะส่งรายละเอียดของมาตรการที่รัฐบาลจะดำเนินการ เพื่อแลกกับการได้รับความช่วยเหลือมากขึ้น
ข่าวเด่น