ภายหลังทางการจีนประกาศใช้มาตรการต่างๆ เพื่อสกัดกั้นการร่วงลงของตลาดหุ้นจีน รวมถึงสถาบันสินเชื่อเพื่อธุรกิจหลักทรัพย์ของจีน (CSF) จะจัดหาสภาพคล่องให้กับผู้ที่ต้องการซื้อกองทุนสาธารณะ ส่งผลให้ตลาดหุ้นจีนพลิกกลับมาปิดบวกได้อย่างแข็งแกร่งกว่า 200 จุดเมื่อวานนี้ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวทำให้นักลงทุนทั่วโลกคลายความกังวลและเข้าช้อนซื้อหุ้นถูกในตลาดหุ้นสำคัญต่างๆ ทั่วโลกทั้งตลาดหุ้นนิวยอร์กและตลาดหุ้นในทวีปยุโรป ทำให้ดัชนีสามารถดีดขึ้นไปยืนอยู่ในแดนบวกได้ทุกตลาด

โดยตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดตลาดเมื่อคืนนี้ (9 กรกฎาคม 2558) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 17,548.62 จุด เพิ่มขึ้น 33.20 จุด หรือ +0.19% , ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,922.40 จุด เพิ่มขึ้น 12.64 จุด หรือ +0.26% และดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,051.31 จุด เพิ่มขึ้น 4.63 จุด หรือ +0.23%

นอกจากนี้ อีกหนึ่งปัจจัยที่หนุนตลาดหุ้นนิวยอร์ก คือ มุมมองที่เป็นบวกของนักลงทุนกรณีกรีซน่าจะบรรลุข้อตกลงกับเจ้าหนี้ได้ในสัปดาห์นี้ หลังรัฐบาลกรีซยื่นเรื่องอย่างเป็นทางการเพื่อขอรับเงินกู้ระยะ 3 ปีจากทางกองทุน ESM แล้ว พร้อมกับยืนยันที่จะดำเนินการตามเงื่อนไขบางประการที่เจ้าหนี้เรียกร้องในข้อตกลงให้ความช่วยเหลือ

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กไม่สามารถบวกขึ้นไปแรงได้ เนื่องจากมีปัจจัยกดดันเรื่องที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประกาศปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปีนี้ สู่ระดับ 3.3% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เศรษฐกิจโลกหดตัวในปี 2009 โดยปรับลดลง 0.2% เมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์ในเดือนเม.ย.ที่ระดับ 3.5% และต่ำกว่าการขยายตัวในปีที่แล้วที่ 3.4%

สำหรับตลาดหุ้นยุโรปปิดตลาดเมื่อคืนนี้ (9 กรกฎาคม 2558) ได้รับอานิสงส์จากตลาดหุ้นจีนเช่นเดียวกัน ดันดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 2.2% ปิดที่ 381.06 จุด ,ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดที่ 6,581.63 จุด เพิ่มขึ้น 90.93 จุด หรือ +1.40% , ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,757.22 จุด พุ่งขึ้น 118.20 จุด หรือ +2.55% และดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมัน ปิดที่ 10,996.41 จุด เพิ่มขึ้น 249.11 จุด หรือ +2.32%