สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 10 กรกฎาคม 2558 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,158.30-1,163.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,700 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาไม่เปลี่ยนจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,700 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFQ15 อยู่ที่ 18,840 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 10 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,830 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.18 น.ของวันที่ 10/07/15)

แนวโน้มวันที่ 13 กรกฎาคม 2558
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ประเด็นดังกล่าวกดดันทิศทางราคาทองคำและสร้างแรงขายเมื่อราคาทองคำขยับขึ้น ทั้งนี้ กระแสการคาดการณ์จากนักเศรษฐศาสตร์และนักวิเคราะห์ยังคงคาดว่าอัตราดอกเบี้ย ของสหรัฐจะปรับขึ้นในเดือนกันยายน แต่อย่างไรก็ตามความเห็นของกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลายคนย้ำว่า เพื่อกำหนดเงื่อนไขสำหรับการปรับนโยบายให้เป็นปกติ พวกเขาจึงต้องการข้อมูลเพิ่มเติมที่บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจกำลังขยายตัวมากขึ้น ภาวะตลาดแรงงานยังคงปรับตัวดีขึ้น และอัตราเงินเฟ้อปรับตัวไปสู่เป้าหมาย ซึ่งกรรมการในเฟดบ้างท่านเชื่อว่าเฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียงครั้ง เดียวในปีนี้ ขณะที่กรรมการอีกส่วนระบุว่าเฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ ความไม่ชัดเจนดังกล่าวส่งบวกต่อราคาทองคำให้ฟื้นตัวขึ้นได้บ้างจากความหวัง ว่าเฟดอาจจะเลื่อนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไปเป็นเดือนธันวาคม และกดดันให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐลดช่วงบวกลง ทั้งนี้ นักลงทุนกำลังจับตา นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ จะแสดงทัศนะต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ, อัตราเงินเฟ้อ และ ตลาดจ้างงานของสหรัฐ ผ่านการแถลงนโยบายการเงิน (Testifies) ต่อรัฐสภาสหรัฐในวันพุธนี้ เพื่อคาดการณ์เกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยนักลงทุนจะพิจารณาคำตอบของนางเยลเลนอย่างใกล้ชิดในเรื่องเศรษฐกิจและ นโยบายการเงินรอบครึ่งปี

เบื้องต้นวายแอลจียังคงแนะนำให้เข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น เนื่องจากราคาทองคำมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway หากราคาสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,154-1,148 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคามีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1,175-1,183 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหากไม่สามารถผ่านแนวต้านไปได้จะเห็นการอ่อนตัวของราคาลงอีกครั้ง

กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า ในระยะสั้นหากราคาทองคำอาจขยับขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,175-1,183 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยบริเวณนี้นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบ้างส่วนออกมาบ้าง โดยให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ซึ่งหากไม่ผ่านราคาอาจจะมีการอ่อนตัวลงอีกครั้ง ซึ่งหากราคาทองคำยืนเหนือบริเวณแนวรับ 1,154-1,148 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ แนะนำให้นักลงทุนเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาบริเวณดังกล่าว และรอไปขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นไปหรือตามบริเวณแนวต้านต่างๆ อย่างไรก็ตามวายแอลจีเน้นย้ำว่านักลงทุนระยะสั้นควรวางแผนการลงทุนที่ชัดเจน มีจุดเข้าซื้อ จุดขายทำกำไร หรือจุดตัดขาดทุน และปฏิบัติตามแผนที่วางไว้อย่างเคร่งครัด

                ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ        1,154 (18,500บาท)        1,148 (18,400บาท)           1,138 (18,240บาท)
แนวต้าน      1,175 (18,850บาท)        1,183 (18,970บาท)           1,190 (19,080บาท)     

           GOLD FUTURES (GFQ15)
แนวรับ        1,154 (18,700บาท)        1,148 (18,600บาท)           1,138 (18,450บาท)
แนวต้าน      1,175 (19,040บาท)        1,183 (19,170บาท)           1,190 (19,280บาท)