สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 14 กรกฎาคม 2558 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,153.83-1,158.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,650 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,650 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFQ15 อยู่ที่ 18,750 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 20 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,770 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.59 น.ของวันที่ 13/07/15)

แนวโน้มวันที่ 15 กรกฎาคม 2558
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นจากการคาดการณ์ ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้อย่างแน่นอน เมื่อ นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดแสดงท่าทีในช่วงที่ผ่านมาบ่งชี้ชัดเจนว่าจะดำเนินการปรับขึ้นอัตรา ดอกเบี้ยตามแผนเดิมที่วางไว้ โดยมุ่งความสนใจไปยังความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจภายในสหรัฐเป็นหลักและมอง ข้ามภาวะปั่นป่วนวุ่นวายที่เกิดจากกรีซและจีน ท่าทีดังกล่าวได้เพิ่มแรงกดดันต่อทิศทางราคาทองคำ และเพิ่มความเชื่อมั่นว่าเฟดจะขยับอัตราดอกเบี้ยขึ้นจากระดับ 0-0.25 % ที่ตรึงไว้เป็นเวลานานเกือบ 7 ปี ซึ่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะดึงดูดเงินลงทุนให้ไปสู่ตลาดเงิน ดอลลาร์สหรัฐเพิ่มขึ้น ประกอบกับทิศทางนโยบายการเงินที่แตกต่างไปจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ที่ยังคงจำเป็นต้องดำเนินนโยบายอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำต่อไปเพื่อรับมือกับ วิกฤติเศรษฐกิจจะสร้างแรงซื้อดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งมากขึ้น ทั้งนี้ นักลงทุนในตลาดทองคำได้เพิ่มความระมัดระวังในการสะสมทองคำเพิ่มและกำลังจับ ตา การแถลงจากนางเยนเลนต่อ สภาคองเกรส ซึ่งอาจจะทำให้มีความชัดเจนมากขึ้นในเรื่องระยะเวลาและอัตราเร่งของการปรับ ขึ้นอัตราดอกเบี้ยว่าจะเป็นไปในทิศทางใด เนื่องจากประธานเฟดจำต้องแถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปีต่อคณะกรรมาธิการ บริการทางการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันพุธนี้ เวลา 21.00 น.ตามเวลาไทย และหลังจากนั้นประธานเฟดจะต้องแถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปีต่อคณะกรรมาธิการ การธนาคารประจำวุฒิสภาในเวลาเดียวของวันพฤหัสบดีด้วย ซึ่งอาจจะส่งผลให้เกิดความผันผวนต่อราคาทองคำได้ วายแอลจีจึงอยากแนะนำให้นักลงทุนระมัดระวังการลงทุนในช่วงเวลานี้อย่างมาก เนื่องจากเมื่อราคาทองคำปรับตัวขึ้นยังคงแรงขายทำกำไรออกมา ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่ยังมีแนวคิดไม่แตกต่างจากเดิมท่ามกลางกระแสข่าวที่ เกิดขึ้น

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำรอจังหวะเข้าซื้อโดยสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้มากอาจเข้าซื้อ เมื่อราคาย่อตัวลงมาบริเวณ 1,143 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้น้อยแนะนำให้รอดูบริเวณแนวรับ 1,130 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และรอขายทำกำไรบางส่วนบริเวณแนวต้านแรกที่ 1,164 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนที่เหลือให้รอไปปิดสถานะทำกำไรบริเวณแนวต้านถัดไป และควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ เพื่อลดความเสี่ยงพอร์ตการลงทุน ซึ่งหากนักลงทุนไม่มีวินัยในการลงทุนที่จะตัดขาดทุน จะทำให้เกิดความเสียหายที่ไม่อาจควบคุมได้อีกต่อไป

                ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ        1,143 (18,380บาท)        1,130 (18,170บาท)           1,120 (18,010บาท)
แนวต้าน      1,164 (18,720บาท)        1,173 (18,870บาท)           1,180 (18,980บาท)     

           GOLD FUTURES (GFQ15)
แนวรับ        1,143 (18,580บาท)        1,130 (18,370บาท)           1,120 (18,200บาท)
แนวต้าน      1,164 (18,910บาท)        1,173 (19,060บาท)           1,180 (19,180บาท)