(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.46 น.ของวันที่ 06/08/15)

ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนพร้อมอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ปรับตัวขึ้น หลังจากสถาบันจัดการอุปทาน (ISM) ของสหรัฐรายงานว่าดัชนีกิจกรรมภาคบริการพุ่งขึ้นสู่ระดับ 60.3 ในเดือนกรกฎาคม ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2005 ได้เพิ่มความเชื่อมั่นว่าแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ทั้งนี้ ดัชนีกิจกรรมภาคบริการบดบังปัจจัยหนุนทองคำจากถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ผู้ว่าการ คนหนึ่งของเฟด กล่าวว่า ผู้กำหนดนโยบายของเฟดยังไม่ได้ตัดสินใจแต่อย่างใดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายนหรือไม่ ขณะที่สกุลเงินยูโรร่วงลงได้เพิ่มแรงขายเข้ามายังตลาดทองคำจากความวิตกที่ว่าข้อตกลงหนี้ระหว่างกรีซและเจ้าหนี้จะไม่ผ่านการอนุมัติจากรัฐสภากรีซ ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์ยังคงอยู่ใกล้จุดสูงสุดในรอบกว่า 3 เดือน ทั้งนี้ นักลงทุนคาดว่าดอลลาร์สหรัฐอาจร่วงลงไม่มากนัก ก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนกรกฎาคมในวันศุกร์นี้ โดยนักเศรษฐศาสตร์ในโพลล์รอยเตอร์คาดว่าการจ้างงานนอกภาคเกษตรอาจเพิ่มขึ้น 223,000 ตำแหน่งในเดือนกรกฎาคม ขณะที่อัตราการว่างงานอาจทรงตัวอยู่ที่ 5.3% ในเดือนกรกฎาคม ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2008 หากทิศทางตลาดแรงงานออกมาสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์จะส่งผลลบต่อราคาทองคำ สำหรับมุมมองของวายแอลจีที่มีต่อราคาทองคำนั้น ประเมินว่าหากราคาทองคำขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,095 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากไม่สามารถผ่านไปได้ ทำให้ราคาเกิดการอ่อนตัวลง แต่หากการอ่อนตัวของราคาทองคำยังคงสามารถยืนเหนือโซนบริเวณ 1,080-1,073 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ โดยราคาทองคำยังมีโอกาสทดสอบแนวต้านอีกครั้ง