สภาวะตลาดวันที่ 11 สิงหาคม 2558 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,094.40-1,119.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,600 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 350 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,250 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFQ15 อยู่ที่ 18,720 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 390 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,330 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.31 น.ของวันที่ 11/08/15)
แนวโน้มวันที่ 13 สิงหาคม 2558
ธนาคารกลางจีนตัดสินใจปรับปรุงระบบการกำหนดอัตราค่ากลางสกุลเงินเพื่อให้อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินหยวนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐสามารถสะท้อนสถานการณ์ในตลาดได้ดียิ่งขึ้น โดยประกาศอัตรากลางของค่าเงินหยวนประจำวัน (Daily Fixing) โดยปรับลดค่ากลางของหยวนลงสู่ 6.2298 หยวนต่อดอลลาร์ จาก 6.1162 หยวนต่อดอลลาร์ ซึ่งค่าเงินหยวน (CNY Spot Rate) อ่อนค่าลงประมาณร้อยละ 1.9 จนแตะจุดต่ำสุดในรอบ 3 ปี หลังการประกาศดังกล่าว ดัชนี MSCI สำหรับหุ้นภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกยกเว้นญี่ปุ่นดิ่งลงลงมาแตะจุดต่ำสุดในรอบ 1 ปีครึ่ง โดยร่วงลง 0.9%
ทั้งนี้ตลาดการเงินโลกอาจเผชิญกับความผันผวนที่สูงขึ้นเนื่องจากธนาคารกลางจีนและธนาคารกลางของเทศต่างๆอาจจะปล่อยให้ค่าเงินอ่อนค่าลงท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงในรูปแบบการทำส่งครามค่าเงินเพราะค่าเงินที่อ่อนค่าและมีความยืดหยุ่นมากขึ้นน่าจะเป็นผลดีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศนั้นๆ จากการเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจจะสร้างแรงกดดันมากขึ้นให้แก่ตลาดหุ้นและสินทรัพย์เสี่ยงต่าง ซึ่งสร้างแรงซื้อเข้ามายังตลาดทองคำในฐานะสินทรัพย์ปล่อยภัย อีกทั้งการอ่อนค่าของเงินหยวนน่าจะมีผลบวกที่ช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจจีนได้มากขึ้น ซึ่งน่าจะเป็นผลดีต่อต่อแรงซื้อทองคำจากจีนซึ่งเป็นผู้ใช้ทองคำอันดับต้นๆของโลก ขณะที่บาทต่อดอลลาร์ระหว่างวันอ่อนค่าสุดที่ 35.38 ซึ่งเป็นระดับอ่อนค่าสุดครั้งใหม่ในรอบกว่า 6 ปี ตามการอ่อนค่าของสกุลเงินภูมิภาคโดยได้รับแรงกดดันจากการลดค่าเงินหยวนของจีน ซึ่งส่งผลบวกต่อราคาทองคำภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำรับข่าวมาแล้วระดับหนึ่ง ประกอบกับในช่วงที่ผ่านหลายครั้งที่ราคาทองคำปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรเมื่อสถานการณ์ความผันผวนเริ่มคลี่คลาย ดังนั้นนักลงทุนที่จะไล่ซื้อทองคำควรคำนึงถึงปัจจัยดังกล่าวด้วย
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำมีการดีดตัวขึ้นมา โดยประเมินแนวต้านแรกไว้ที่ระดับ 1,119ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถขึ้นไปยืนเหนือแนวรับได้มีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1,136 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากไม่สามารถผ่านไปได้ราคาทองคำมีแนวโน้มย่อตัวลงมาบริเวณแนวรับ 1,100 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหากราคายังหลุดแนวรับแรก ราคาทองคำจะปรับตัวลงสู่แนวรับถัดไปบริเวณโซน 1,090 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เบื้องต้นในการเข้าซื้อทองคำทองคำนักลงทุนสามารถสังเกตว่าราคาทองคำยังทำจุดสูงสุดใหม่หรือไม่ ซึ่งหากราคาหยุดการทำในลักษณะนี้ แสดงว่าแรงซื้อกำลังอ่อนแรงลง นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขายโดยน่าจะเห็นการอ่อนตัวของราคาลงมาอีกครั้งของราคา
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,100 (18,360บาท) 1,090 (18,190บาท) 1,080 (18,030บาท)
แนวต้าน 1,119 (18,680บาท) 1,136 (18,970บาท) 1,145 (19,120บาท)
GOLD FUTURES (GFQ15)
แนวรับ 1,100 (18,510บาท) 1,090 (18,340บาท) 1,080 (18,170บาท)
แนวต้าน 1,119 (18,830บาท) 1,136 (19,110บาท) 1,145 (19,260บาท)
ข่าวเด่น