กลยุทธ์วันนี้
Sideways
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ SET INDEX เปิดหลุดแนว 1,400 จุด ลงไปทดสอบแนวรับสำคัญ 1,380-1,385 จุด กดดันด้วยกลุ่มพลังงานที่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันดิบ รวมถึงแรงขายกลุ่มธนาคารหนาแน่น อย่างไรก็ตาม หุ้นที่เป็น Domestic Play หรือหุ้นปันผลกลับแข็งแกร่งกว่าในภาพรวม รวมถึงการเกิด Technical Rebound ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX ลบ 4.17 จุด มาอยู่ที่ 1,404.15 จุด มูลค่าการซื้อขาย 49,506 ล้านบาท
กระแสเงินทุนต่างชาติเป็นกลางวันที่ 6 ขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 8 อีก 1,859 ล้านบาท Long สุทธิใน SET50 Index Futures อีกครั้ง 5,497 สัญญา และซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 5 มากถึง 3,118 ล้านบาท เมื่อค่าเงินบาทแข็งค่าราว 10 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐฯ ระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย
ปัจจัยสำคัญวันนี้
อัตราแลกเปลี่ยนกลางของเงินหยวนเช้านี้ 6.3975 หยวน/ดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากวันก่อนหน้าที่ 6.4010 หยวน/ดอลลาร์สหรัฐฯ
MSCI ปรับรอบไตรมาสนี้ ไม่มีการเพิ่ม / ตัด หุ้นไทยออกจาก MSCI Thailand และ MSCI Global Small Cap
ปัจจัยสำคัญสัปดาห์หน้า
การประกาศ GDP ใน 2Q58 ของไทย เช้าวันจันทร์ที่ 17 ส.ค. ณ ปัจจุบัน Bloomberg consensus คาด +2.9% yoy ชะลอตัวจาก 1Q58 ที่เติบโต 3.0% yoy
ติดตามการปรับครม.หลังเสร็จงานสำคัญ Bike For Mom วันที่ 16 ส.ค.
ติดตามพัฒนาการปฎิรูประบบอัตราแลกเปลี่ยนของจีน หากชะลอ / ยุติ การอ่อนค่าเงินหยวน จะเป็นสัญญาณบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก
มุมมองต่อตลาด
เรากลับมาให้น้ำหนักภาวะการลงทุนเป็น “กลาง” จากวานนี้ “กลางถึงลบ” หลัง SET INDEX สามารถกลับมายืนเหนือ 1,400 จุด วานนี้ได้อีกครั้ง พร้อมกับมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่น สะท้อนแนวรับ 1,400 จุดยังทำงานได้อย่างแข็งแกร่ง ทั้งนี้ SET INDEX จะฟื้นตัวสู่ด่าน 1,415-1,420 จุดได้หรือไม่ ติดตามประเด็นเหล่านี้
อัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนกลางจากธนาคารกลางจีนเช้านี้ หากอ่อนค่าต่ำกว่า 1% หรือคงอัตราแลกเปลี่ยนที่ 6.40 หยวน/ดอลลาร์สหรัฐฯ คาดว่าตลาดหุ้นทั่วเอเชียและไทยจะตอบรับในเชิงบวกทางจิตวิทยาการลงทุน
ระดับราคาหุ้นหลัก ไม่ว่าจะเป็น PTT / SCC / KBANK/ SCB เป็นหุ้นเป้าหมายที่ถูก SBL / DW ด้าน Put Options ค่อนข้างมาก หากราคาหลักทรัพย์เหล่านี้ฟื้นตัวเด่น ย่อมทำให้เกิดแรง Covered short / put เหมือนเช่น AOT วานนี้ที่ฟื้นตัวอย่างโดดเด่น
ปัจจัยสำคัญในสัปดาห์หน้า
เรากลับมาให้น้ำหนักกับปัจจัยภายในประเทศเป็นหลักอีกครั้ง ทั้งตัวเลข GDP ใน 2Q58 ประกาศในวันจันทร์หน้า และช่วงเวลาที่นายกฯ จะปรับครม. หลังเสร็จสิ้นงานสำคัญ Bike For Mom ในวันอาทิตย์ที่ 16 ส.ค. เพราะถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุน และภาคเอกชนทั้งในและต่างประเทศได้มากหรือน้อย สะท้อนกลับมายังมูลค่าการซื้อขายในตลาดหุ้นไทยเฉลี่ยต่อวันจะเพิ่มขึ้นหรือไม่ ภายใต้ upside gain ของ SET INDEX ช่วงสั้นยังคงจำกัด เพราะยังขาดปัจจัยบวกเชิงพื้นฐานที่จับต้องได้ แต่เราเชื่อว่า จากนี้ไป คณะรัฐมนตรี โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจจะเร่งดำเนินการกรอบและแผนการเปิดประมูลโครงการลงทุนขนาดใหญ่ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งน่าจะเห็นเป็นรูปธรรมตั้งแต่เดือนก.ย.เป็นต้นไป
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ “นักลงทุนที่ซื้อเก็งกำไรบริเวณ 1,400 จุดหรือต่ำกว่าวานนี้ อาจพิจารณาขายทำกำไรรอบสั้นบริเวณ 1,410-1,420 จุด และรอซื้อหุ้นเป้าหมายกลับบริเวณ 1,400 จุด หรือราคาหุ้นเป้าหมายเกิดการย่อตัวระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย”
Top Pick in 3Q15: BCP / BMCL/ IFEC / WHA
HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ ADVANC/ WHA/ THAI/ BCP/ IFEC/ INTUCH
Accumulative Buy: SCC / WHA
ข่าวเด่น