วันนี้ (18 ส.ค.58) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวแสดงความสียใจกับผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากเหตุการณ์ลอบวางระเบิดแยกราชประสงค์เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (17 ส.ค.) พร้อมกล่าวว่าได้ส่งสารไปยังนายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีของหลายประเทศที่มีประชาชนของเขาได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว และยืนยันจะนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษโดยเร็ว

โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังไม่สรุปว่าเป็นการกระทำของฝ่ายใดอยู่ระหว่างการตรวจสอบ แต่ที่สรุปได้คือการกระทำของคนเลว ที่ไม่เห็นแก่ชีวิตของผู้บริสุทธิ์ที่ต้องสูญเสีย ไม่ว่าเขาจะทำด้วยเหตุผลใดก็ตาม ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าสาเหตุอาจมาจากเรื่องการเมืองหรือเป็นเรื่องระหว่างประเทศนั้น ไม่อยากให้ลงความเห็นไปทางใดทางหนึ่งก่อน เพราะจะทำให้การสอบสวนผิดประเด็นไป และหากไม่ใช่จะกลายเป็นความตื่นตระหนก

"เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนที่จะต้องหาวิธีแก้ปัญหาในแนวใหม่ ไม่อยากให้ใช้การประโคมข่าวหรือโซเชียลมีเดียในการรับรู้ในเรื่องที่ยังไม่ชัดเจน เพราะจะมีผลเสียทั้งด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว ซึ่งเป็นความต้องการของผู้ก่อเหตุที่จะทำให้ทั ง 2 เรื่องดังกล่าวแย่ลง เหตุการณ์ครั้งนี้ถือว่ารุนแรงที่สุด ที่ผ่านมาเป็นเพียงการสร้างสถานการณ์ แต่ครั้งนี้มุ่งหวังต่อชีวิตประชาชน"นายกรัฐมนตรีกล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ถ้าวิเคราะห์จากสถานการณ์เบื้องต้น คนวางระเบิดสามารถวางคนเดียวได้ โดยนำมาวางในจุดที่มีคนพลุกพล่าน การป้องกันจึงทำได้ยาก และชาวต่างชาติอยู่เยอะ เพื่อสร้างผลกระทบต่อสังคมและเศรษฐกิจ และหลังเกิดเหตุมีการปล่อยข่าวทางโซเชียลมีเดียหรือตามสื่อบางสื่อว่าจะปิดสถาบันทางการเงิน ตรงนี้แสดงให้เห็นว่ามีขั้นตอนการทำงานอยู่ แสดงว่าเป็นขบวนในการทำต้องไปหาว่าเป็นขบวนการไหน

"ขอร้องไปยังทุกคนทั้งสื่อ ประชาชนที่ใช้โซเชี่ยลมีเดีย รู้ว่าทุกคนหวังดี แต่เราต้องรู้ว่าควรปฏิบัติตัวอย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้ ซึ่งอาจเกิดได้ทุกที่ตลอดเวลาไม่เฉพาะประเทศไทย ดังนั้น ทุกคนต้องเพิ่มความระมัดระวัง แต่ไม่ใช่การตื่นตระหนก"นายกรัฐมนตรีกล่าว

ส่วนกรณีที่มีผู้โพสล่วงหน้าว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า  เวลานี้กำลังตรวจสอบว่าใช่หรือไม่ เขียนเพราะอะไร จริงหรือไม่จริง ที่โพสต์ใช้ชื่อ "นาย" อะไรสักคนนั่นหล่ะ กำลังให้ติดตามตัวมาสอบสวน อยู่ภาคอีสาน เคยเป็นกลุ่มต่อต้านรัฐบาล

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นอาจเป็นไปได้ทั้งสองอย่าง ทั้งเรื่องการเมืองและเรื่องระหว่างประเทศ ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้ตัดว่าเป็นประเด็นใดประเด็นหนึ่ง