สภาวะตลาดวันที่ 18 สิงหาคม 2558 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,117.20-1,120.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,850 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 150 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,700 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFQ15 อยู่ที่ 18,990 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 200 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,790 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.01 น.ของวันที่ 18/08/15)

แนวโน้มวันที่ 19 สิงหาคม 2558
   ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 28-29 กรกฎาคมที่ผ่านมาในวันพุธนี้ นักลงทุนจึงมุ่งความสนใจไปยังรายงานการประชุมดังกล่าวเพื่อใช้ในการคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมประจำวันที่ 16-17 กันยายนนี้หรือไม่ ซึ่งจะถือเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2006 ประเด็นดังกล่าวสร้างแรงขายกดดันการขยับขึ้นของราคาทองคำไว้ ขณะที่ดอลลาร์สหรัฐยังคงรักษาระดับความแข็งแกร่งไว้ได้ โดยนักลงทุนกำลังพิจารณาท่าทีของเฟดที่จะแสดงปฏิกิริยาเช่นใดต่อการปรับลดค่าเงินหยวนของจีน เมื่อการอ่อนค่าของสกุลเงินหยวนอาจจะสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจสหรัฐ และเป็นอุปสรรคขัดขวางเฟดในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
   ขณะที่การอ่อนตัวลงของราคาทองคำไม่มากนักโดยได้รับแรงหนุนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย เมื่อตลาดหุ้นจีนร่วงลงตามสกุลหยวนที่กลับมาอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งทำให้เกิดความวิตกว่า จีนอาจจะต้องการให้หยวนร่วงลงมากกว่านี้ แม้มีการรับประกันจากธนาคารกลางจีนในสัปดาห์ที่แล้วว่า ไม่มีเหตุผลที่หยวนจะร่วงลงอีกก็ตาม ทั้งนี้ ธนาคารกลางจีนได้อัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ตลาดเงินจำนวนมากที่สุดในรอบกว่า 6 เดือน แต่อัตราดอกเบี้ยอินเตอร์แบงก์ระยะสั้นยังคงเพิ่มขึ้น ซึ่งเพิ่มความวิตกที่ว่าสภาพคล่องกำลังตึงตัวและบริษัทอาจจะถอนเม็ดเงินออกจากจีนมากขึ้น เมื่อเศรษฐกิจชะลอตัวรวมทั้งการคาดการณ์ ที่ว่ารัฐบาลอาจจะเริ่มปรับลดมาตรการกระตุ้นตลาดหุ้นนั้น ทำให้นักลงทุนขายหุ้นทำกำไรออกมาหลังจากราคาหุ้นพุ่งขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เบื้องต้นวายแอลจีประเมินว่าหากราคาทองคำสามารถปรับตัวขึ้นเหนือโซน 1,110 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งต้องรอดูการเคลื่อนไหวของราคาทองคำว่าจะสามารถยืนในบริเวณ 1,126 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่งหรือไม่ หากสามารถยืนได้ประเมินว่าราคาทองคำจะขยับขึ้นชนแนวต้านในโซน 1,136 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในขณะที่หากราคาทองคำไม่สามารถยืน 1,126 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่งนักลงทุนต้องระมัดระวังการอ่อนตัวของราคาทองคำ
   กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจี แนะนำรอจังหวะเข้าซื้อโดยสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้มากอาจเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาบริเวณ 1,110 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้น้อยแนะนำให้รอดูบริเวณโซนแนวรับ 1,106 หรือ 1,100 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และรอขายทำกำไรบางส่วนบริเวณแนวต้านแรกที่ 1,126 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนที่เหลือให้รอไปปิดสถานะทำกำไรบริเวณแนวต้านถัดไปที่ 1,136 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ เพื่อลดความเสี่ยงพอร์ตการลงทุน ซึ่งหากนักลงทุนไม่มีวินัยในการลงทุนที่จะตัดขาดทุน จะทำให้เกิดความเสียหายที่ไม่อาจควบคุมได้อีกต่อไป

ทองคำแท่ง (96.50%)
   แนวรับ        1,110 (18,690บาท)        1,106 (18,620บาท)           1,100 (18,510บาท)
   แนวต้าน      1,126 (18,950บาท)        1,136 (19,120บาท)           1,145 (19,280บาท)    

GOLD FUTURES (GFQ15)
   แนวรับ        1,110 (18,830บาท)        1,106 (18,760บาท)           1,100 (18,660บาท)
   แนวต้าน      1,126 (19,100บาท)        1,136 (19,270บาท)           1,145 (19,420บาท)