Nomura : Key Factors       

    (+) Int Factor: จับตา การปรับ ครม. ชุดใหม่ ช่วยหนุนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเร่งตัวขึ้น
    (+) Ex Factor: Fed Minutes บ่งชี้ว่า ยังคงกังวลต่ออัตราเงินเฟ้อ US ที่อยู่ในระดับต่ำ
    (+) Flow: แรงขายต่างชาติจำกัดหลังสถานะคงค้างจาก QE1 เหลือเพียง 1.17 หมื่นลบ
    (+) Ex Factor: Bloomberg Consensus ให้โอกาส 36% Fed ขึ้นดอก ก.ย. ลดลงจาก 50%
    (+) Int Factor: กองทุนทริกเกอร์ฟันด์กองใหม่ เข้ามาช่วย support ตลาดระยะสั้น
    (+) Technical: SET ปัจจุบันเข้าสู่ Oversold Zone (RSI 28.93) หนุนโอกาสการรีบาวน์
    (-/+) US Econ : CPI เดือน ก.ค. +0.1m-m จาก +0.3% ต่ำคาดที่ +0.2% / ชะลอขื้นดอก
    (-) Commo: สต๊อกน้ำมันดิบUS +2.6 ล้านบาร์เรล สวนคาด -7.7 แสน / WTI Low 6 ปีครึ่ง
    (-) Ex Factor: ความกังวลต่อเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวอาจกดดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
    (-) Commo: ราคาน้ำมันดิบ WTI -4.4% สู่ $40.73/bbl / Brent -3.4% สู่ $47.16/bbl
    (-) Fund Flow: ต่างชาติขาย 4550 ลบ., Short Future 6756, ซื้อ Bond 5526 ลบ.
    SET PER 15F: CNS 13.92x (EPS 99)  vs Cons.14.42x (LT-Avg 14.0x)
    SET Target 12MonthFwd: CNS Base 1705 pts (EPS 113.5, PER15x)
    Nomura Daily Top Picks: SCC, CK, PLANB


Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ ย่อแล้วดีด ในกรอบแนวรับ 1369/1362จุด และแนวต้าน 1388/1395 จุด แรงกดดันหลักจากการรายงานตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯของ EIA ที่เพิ่มขึ้น 2.6 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 456.2 ล้าน สวนตลาดคาดว่าจะลดลง 7.7 แสนบาร์เรล สะท้อนถึงสภาวะอุปทานส่วนเกินสูง ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบสหรัฐฯวานนี้ ย่อลงแรง -4.4% สุ่ระดับ 40.73 เหรียญต่อบาร์เรล ทำจุดต่ำสุดในรอบ 6 ปีครึ่ง กดดันหุ้นกลุ่มพลังงานถ่วงตลาดต่อเนื่อง ส่วนรายงานการประชุม FED Minutes (28-29 กค.) วานนี้ มุมมองของ FED ยังคล้ายเดิม คือประเมินการฟื้นตัวของภาคแรงงานสหรัฐฯแบบค่อยเป็นค่อยไป  แต่ยังกังวลอัตราเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าเป้าหมายมาก ล่าสุดการรายงานเงินเฟ้อ เดือน กค. พบว่าขยายตัวเพียง +0.1%m-m Vs คาด +0.2%m-m น่าจะบ่งชี้โอกาสที่ FED จะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายออกไปอีกระยะหนึ่ง สอดคล้องกับ Bloomberg Consensus ที่ปรับลดน้ำหนักการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน กย.15 เหลือเพียง 36%(จากต้นเดือน ส.ค. ที่ให้โอกาสราว 50%) จะเห็นว่าตลาดเริ่มมองไปในทางเดียวกับ Nomura ที่คาดดอกเบี้ยน่าจะขึ้นเดือน ธค 2015 มากกว่า  ประเด็นนี้ช่วยลดแรงกดดันต่อเม็ดเงินไหลออกจากเอเซีย ซึ่งล่าสุดเงินร้อนที่เข้าไทยตั้งแต่ QE1(มีค 2009) จนถึงปัจจุบันยอดคงค้างรวมผลตอบแทนลดลงต่อเนื่องจาก 3.62แสนล้านบาท เหลือเพียง 1.17 หมื่นล้านบาท ทำให้ความเสี่ยงต่อแรงขายจำกัดลงไปมาก ขณะที่ปัจจัยภายในเหตุร้ายๆเริ่มเบาบางลง ผสานกับความคาดหวังเชิงบวกต่อการปรับ ครม.ชุดใหม่ ซึ่งคาดได้ทีมเศรษฐกิจชุดใหม่เข้ามาเร่งผลักดันนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งระยะสั้นและยาว คาดว่าจะเน้นในส่วนของการลงทุนทางด้านโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ผ่านการใช้จ่ายจากภาครัฐ(Government Spending) และนโยบายช่วยเหลือรากหญ้ากระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศ (Consumption) เป็นหลัก ซึ่งจะหนุนเศรษฐกิจไทยค่อยๆ ฟื้นตัวในช่วงถัดไป

Asset allocation : หุ้น 80% ทองคำ 2.5% ตลาดบอนด์ 5% และเงินสด 12.5%

Short-Term Strategy : เป็นจังหวะปรับพอร์ตไปเน้นหุ้นที่คาดว่าได้ประโยชน์จากทีมเศรษฐกิจใหม่ที่น่าจะเน้น G & C เป็นหลัก แนะนำกลุ่มอิงการลงทุน SCC, CK, STEC, KTB, KBANK และกลุ่มอิงการบริโภค CPALL, HMPRO, GLOBAL, ROBINS  ผสานกลุ่ม High Dividend (INTUCH, ADVANC) ลดความผันผวนพอร์ตส่วนนักลงทุนระยะกลาง-ยาว มากกว่า 3เดือน แนะนำลงทุนหุ้นท่องเที่ยว(AOT, ERW, MINT, CENTEL, CPN) เพราะราคาหุ้นปรับฐานราว 10%+/- ตอบรับความเสี่ยงเท่าค่าเฉลี่ยในอดีตแล้ว และเป็นกลุ่มที่พิสูจน์ในระยะยาวแล้วว่าฟื้นตัวและเติบโตได้ในระยะยาวทุกครั้ง ผสานหุ้น Top Picks ส.ค.15  (ADVANC, CENTEL, PLANB, IRPC, TVT, TPCH) สำหรับวันนี้แนะนำ*Daily Top Picks SCC, CK, PLANB*

Mid-Long Term Strategy : คาด SET  ฟื้นตัว สู่ต้าน 1467/1497จุด ในเดือน ส.ค. 2015 กลุ่มที่จะนำตลาด คือ กลุ่มปันผลสูง ICT (ADVANC & INTUCH), CONMAT(SCC), COM(CPALL) ผสานกลุ่มBANK (KTB, KBANK, SCB) คาด กนง. คงดอกเบี้ยหนุน Cover-short ผสานหุ้นที่ได้รับอานิสงค์ นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ 6 ด้าน ซึ่งรมว.คลังเตรียมเสนอ 4 ส.ค.นี้ (CPALL, SCC, CK, AOT, WHA, ROBINS, KBANK) ผสานกลุ่มที่คาดกำไร 2Q15F เด่น (WORK, LPN, IRPC, SPA, TVT, PLANB, CBG, QTC) และกลุ่ม Renewable Energy (TPCH, DEMCO, GUNKUL) ส่วนหุ้นที่คาดว่าจะ Underperform ในเดือนนี้คาด AIRLINE, FOOD จากปัญหา ICAO, FAA กดดันและแนวโน้มกำไรอ่อนตัว โดย Portfolio Top picks AUG 15 ADVANC, CENTEL, IRPC, TPCH, TVT, PLANB / Dark Horse CPALL, TKS, SPA, DEMCO, AGE  ส่วนนักลงทุนระยะกลาง-ยาว แนะสะสมหุ้น 3Q15 Top Picks KBANK, CK, SCC, LPN, ROBINS, TVT  

Fundamental & Tactical Daily Top Picks :
SCC (TP600*) : Support 514/508 Resistant 528/532
  Theme : Infrastructure spending
  Earning Outlook : แนวโน้มผลประกอบการ 3Q15F อ่อนแอลงเล็กน้อย q-q โดยคาดว่ากำไรจากธุรกิจเคมีภัณฑ์ที่คาดว่าจะมีส่วนต่างผลิตภัณฑ์ HDPE และ PP ที่ปรับตัวดีขึ้น ytd จะเป็นปัจจัยหนุนกำไร ประกอบกับมีกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นจากการขึ้นโรงงานผลิตซีเมนต์ในประเทศกัมพูชา และอินโดนีเซีย
  Valuation : ราคาเป้าหมายอิงที่ PER15F 16.06 เท่า และ PER16F 13.96 เท่า มี Upside 15.3%
  Catalyst : Sentiment บวกจากการปรับ ครม.ชุดใหม่ มีความคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเร็วขึ้น
 
CK (TP31.1*) : Support 25/24.3 Resistant 26/27
  Theme : Infrastructure spending
  Earning Outlook : เราคาดกำไรปกติ 2HFY15F ของ CK มีแนวโน้มทรงตัวได้ h-h คาดบริษัทจะมีรายได้ที่เติบโตตามงานในมือใหม่ที่มี progress ก่อสร้างเร่งตัวมากขึ้น
  Valuation : ปัจจุบันเทรด Valuation เพียง PER15F 18 เท่าและ PBV15F 2.03 เท่า (Mean 2.17x) มี Upside 21.9%
  Catalyst : Sentiment บวกจากการปรับ ครม.ชุดใหม่ มีความคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเร็วขึ้น
 
PLANB (TP6.9*) : Support 5.6/5.2 Resistant 6.1/6.4
  Theme :  Digital Transformation  
  Earning outlook : แนวโน้ม 2H15 สดใสต่อเนื่องจากยอด Backlog ในมืออีกกว่า 850 ลบ. ต่อเนื่องไปจนถึงปี 2016 จากโอกาสขึ้นค่าโฆษณาและขยายธุรกิจเข้าสู่ AEC
  Valuation :  มูลค่าเหมาะสมปี 2015 อยู่ที่ 6.90 บาท ด้วยวิธี DCF (WACC 9.2%, L-T 4.0%)
  Catalyst : คาดสื่อโฆษณานอกบ้านที่จังหวัดอุดรฯ (Udon Thani City Network) เปิดตัว 4Q15 พร้อมรับดีลมาเลเซียแล้วเสร็จก่อนสิ้นปี 2015