|
|
|
|
|
|
กลยุทธ์วันนี้ Domestic Play
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวันศุกร์ ยังคงเป็นการปรับตัวลงด้วยแรงกดดันจากหุ้นกลุ่มพลังงาน PTTEP / PTTGC / IRPC ขณะที่กลุ่มธนาคาร / SCC ปรับตัวลงเล็กน้อย เทียบกับภาพรวมของตลาดหุ้นในเอเชียที่เผชิญกับการปรับฐานลงอย่างหนัก ถือว่าตลาดหุ้นไทยทรงตัวได้แข็งแกร่งกว่า หุ้นขนาดกลาง / กลุ่มรับเหมาแข็งแกร่ง ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX ลบ 6.92 จุด มาอยู่ที่ 1,365.61 จุด มูลค่าการซื้อขาย 42,795
ล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติชะลอตัวลดน้ำหนักตลาดหุ้นไทย แม้ยังคงขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 4 แต่ชะลอเหลือ 2,621 ล้านบาท กลับมา Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันแรกในรอบ 6 วันทำการ 6,056 สัญญา แต่คงการขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 อีก 4,304 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
สถานการณ์เกาหลีเหนือ – ใต้ คลายความตึงเครียด หลังตัวแทน 2 ประเทศเปิดโต๊ะเจรจาในค่ำวันที่ 22 ส.ค. และวันที่ 23 ส.ค.
ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเริ่มทรงตัวดีขึ้น คลายแรงกดดันต่อกลุ่มพลังงาน
DJIA ปิดลบ 3.12% คืนวันศุกร์ จากความกังวลต่อเศรษฐกิจจีน / ความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลี / เฟดที่อาจจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.
ทางการจีนอนุมัติให้กองทุนบำเน็จบำนาญ ลงทุนในตลาดหุ้นได้ไม่เกิน 30% ของสินทรัพย์
กสทช.เห็นชอบในร่างการประมูลคลื่น 1800 คาดจะลงในราชกิจจานุเบกษาได้ในวันที่ 25 ส.ค. นี้
มุมมองต่อตลาด
เราคงน้ำหนักการลงทุนเป็น “กลาง” ต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 เมื่อราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเริ่มทรงตัว และยังคงยืนเหนือ US$40/barrel สำหรับ WTI เชื่อว่ากลุ่มพลังงานนำโดย PTT จะทรงตัวได้ดีขึ้น ซึ่งจะทำให้แรงกดดันต่อ SET INDEX ลดลง เราประเมินกรอบแกว่ง 1,360-1,370 จุด
แม้ว่า DJIA ปิดลบแรง 3.12% ในคืนวันศุกร์ก็ตาม แต่ด้วยแรงขายจากต่างชาติตลอด 3 ปี (2556-YTD 2558) ในตลาดหุ้นไทยกว่า 3.2 แสนล้านบาท น่าจะกลายเป็นจุดที่ทำให้แรงขายจากต่างชาติต่อตลาดหุ้นไทยชะลอตัว ขณะที่ต่างชาติสะสมตลาดหุ้นในเอเชียเหนือ อย่าง TAIEX / KOSPI รวมถึง PSX ที่ซื้อขาย PER58-59 สูงสุดในเอเชีย น่าจะกลายเป็นเป้าหมายของการลดน้ำหนักการลงทุนของต่างชาติในรอบนี้ มากกว่าตลาดหุ้นไทยที่ต่างชาติไม่ได้ให้น้ำหนักต่อการลงทุนตลอด 3 ปีที่ผ่านมา
SET INDEX จะปรับฐานลงแรงได้หรือไม่ เราให้น้ำหนักกับมุมมองของสถาบันภายในประเทศเป็นสำคัญ เพราะเป็นผู้ซื้อสุทธิหลักตลอด 3 ปี เช่นกัน แต่หากประเมินจากการทยอยเปิดขายกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ในช่วง 2-3 สัปดาห์นี้ น่าจะสะท้อนมุมมองเป็นกลางถึงบวก ต่อโอกาสการเข้าลงทุน ณ ปัจจุบัน แรงขายจากสถาบันภายในประเทศน่าจะเป็นไปอย่างจำกัด
ปัจจัยสำคัญที่จะช่วยปิดความเสี่ยงของ SET INDEX คือ นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น – กลาง – ยาว จากทีมเศรษฐกิจ นำโดยรองนายกฯ ดร.สมคิด เป็นสำคัญ ว่าจะเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุน และภาคเอกชน ได้มากน้อยเพียงใด
ปัจจัยสำคัญในต่างประเทศช่วงนี้ ติดตามพัฒนาการบนคาบสมุทรเกาหลี ว่าจะมีพัฒนาการไปในเชิงลบ หรือคลายความตึงเครียดระหว่างกันได้ จะเป็นตัวช่วยลดความผันผวนต่อสินทรัพย์เสี่ยงในช่วงสั้นนี้ เพื่อรอดูผลการประชุมเฟดในกลางเดือนก.ย.ต่อไป
ดังนั้นภาพรวมของ SET INDEX ในช่วงสั้นนี้ คาดว่าจะแกว่งระหว่าง 1,350/60 – 1,400 จุด มูลค่าการซื้อขายหนาแน่น โดยแยกภาพชัดเจนระหว่างกลุ่มพลังงาน และกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับ Domestic Play เพื่อเก็งกำไรต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น – ยาว
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ “นักลงทุนเลือกเก็งกำไรในหุ้น / กลุ่ม Domestic Play เป็นสำคัญ” จากการคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ที่จะเริ่มทำงานในช่วงต้นเดือนก.ย. เป็นอย่างเร็ว
Top Pick in 3Q15: BCP / BMCL/ IFEC / WHA
HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ ADVANC/ WHA/ THAI/ BCP/ IFEC/ INTUCH
Accumulative Buy: ADVANC
|
LastUpdate 24/08/2558 10:13:52 โดย : Admin |
|
|
|
|
ข่าวเด่น