- ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงมาปิดระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี หลังจากความกังวลเศรษฐกิจจีนที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงส่งผลให้เกิดการเทขายหุ้นจีนอย่างหนัก โดยดัชนีตลาดหลักทรัพย์ของจีนปิดตลาดปรับลดลงกว่าร้อยละ 8.49 ซึ่งถือเป็นการปรับลดลงสูงที่สุดใน 1 วันในรอบ 6 ปี แม้ว่าเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทางการจีนจะมีการออกมาตรการเพิ่มเติมเพื่อช่วยพยุงตลาดหุ้น โดยการอนุญาตให้กองทุนบำเน็จบำนาญสามารถเข้าไปลงทุนในตลาดหุ้นได้ แต่มาตรการดังกล่าวก็ยังไม่สามารถช่วยลดความกังวลของนักลงทุนได้ โดยผลจากการปรับลดลงอย่างหนักของตลาดหุ้นจีน ส่งผลให้เกิดเทขายในตลาดหุ้นและตลาดสินค้าโภคภัณฑ์อย่างหนัก เนื่องจากขนาดเศรษฐกิจของจีนใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก หากเกิดการชะลอตัวลงจะมีผลกระทบเชิงกว้างต่อเศรษฐกิจของประเทศอื่น นอกจากนั้นยังเป็นผู้บริโภคสินค้าโภคภัณฑ์รายใหญ่ของโลก สำหรับน้ำมันมีสัดส่วนการบริโภคอยู่ที่ร้อยละ 12 ของการบริโภคทั้งหมด อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์บางส่วนคาดว่าในเร็วนี้รัฐบาลจีนอาจจะมีการออกมาตรการระยะสั้นเพื่อพยุงเศรษฐกิจและตลาดหุ้นเพิ่มเติม ผ่านการลดอัตราดอกเบี้ย อัตราเงินสำรองตามกฎหมาย หรือผ่านช่องทางการลงทุนของภาครัฐ
- สำหรับดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เปิดตลาดร่วงลงอย่างหนักกว่า 1,000 จุด ตามดัชนีตลาดหุ้นในเอเชียและยุโรปที่ปรับลดลงอย่างหนัก อย่างไรก็ดี ในช่วงหลังดัชนียังสามารถฟื้นตัวขึ้นมาปรับลดลง 588.40 จุด หรือลดลงร้อยละ 3.57 โดยจากแรงเทขายอย่างหนักของนักลงทุนทั่วโลกส่งผลให้นักลงทุนทั่วโลกมีการโยกเงินไปไว้ยังสินทรัพย์ปลอดภัยอาทิเช่น ค่าเงินเยน ค่าเงินยูโร และค่าเงินฟรังก์สวิส อย่างไรก็ดี ค่าเงินของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาและประเทศที่พึ่งพารายได้จากสินค้าโภคภัณฑ์ปรับลดลงอย่างหนักมาก
+ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวอ่อนค่าลงกว่าร้อยละ 2 เมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร และสกุลอื่นๆ หลังนักลงทุนคาดว่าผลกระทบของการเทขายในตลาดหุ้นและตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ ทำให้ในการประชุม FED ในเดือน ก.ย. จะยังคงไม่มีการปรับเพิ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งสอดคล้องกับผลสำรวจของนักวิเคราะห์ที่มีความเห็นว่าจะมีการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในเดือนดังกล่าวลดลงจากร้อยละ 48 เหลือร้อยละ 22 เท่านั้น
- ราคาน้ำมันดิบที่ปรับลดลงอย่างมากส่งผลให้ล่าสุดอิหร่านมีการออกมาเรียกร้องให้มีการจัดประชุมฉุกเฉินเพื่อหารือถึงสภาวะราคาน้ำมัน ซึ่งก่อนหน้ามีการออกมาเรียกร้องโดยแอลจีเรีย อย่างไรก็ตาม ตัวแทนจากกลุ่มโอเปกออกมากล่าวว่า ไม่น่าจะมีการประชุมดังกล่าวเกิดขึ้น เนื่องจากประเทศยักษ์ใหญ่อย่างซาอุดิอาระเบียยังคงมีนโยบายในการคงปริมาณการผลิตในระดับสูงเพื่อรักษาส่วนแบ่งการตลาด
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากการปิดซ่อมบำรุงของโรงกลั่นที่สิงคโปร์และมาเลเซีย ส่งผลให้ยังคงมีแรงซื้อจากประเทศดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ราคายังได้รับแรงสนับสนุนจากการฟื้นตัวของราคาน้ำมันเบนซินที่ตลาดสหรัฐฯ หลังโรงกลั่นแห่งหนึ่งทางตะวันออกเกิดการระเบิด สร้างความกังวลต่ออุปทานน้ำมันเบนซินสหรัฐฯ อาจมีแนวโน้มตึงตัวมากขึ้น
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากการปิดซ่อมบำรุงของโรงกลั่นที่สิงคโปร์มีแนวโน้มจะนานกว่าแผนที่วางไว้ หลังเกิดเหตุไฟไหม้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทำให้มีการคาดการณ์ว่าอุปทานน้ำมันดีเซลมีแนวโน้มลดลง ประกอบกับ ราคายังคงได้รับแรงสนับสนุนจากแรงซื้อจากเวียดนามและอินโดนีเซีย
ทิศทางราคาน้ำมันดิบ
ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสสัปดาห์นี้เคลื่อนไหวที่กรอบ 37-42 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 42-47 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
ภาวะอุปทานน้ำมันดิบล้นตลาดที่มีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้น แม้ว่าราคาน้ำมันดิบจะเคลื่อนไหวอยู่ในระดับต่ำ แต่จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ที่รายงานโดย Baker Hughes ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่ากำลังผลิตของสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในระดับสูง นอกจากนี้ ข้อมูลล่าสุดเปิดเผยอัตราการผลิตน้ำมันดิบในรัฐ North Dakota ของสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้น 8,500 บาร์เรลต่อวัน สู่ระดับ 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือน มิ.ย.เป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันด้วย
แนวทางการแก้ปัญหาหนี้สินของกรีซในขั้นต่อไป หลังกรีซได้รับเงินกู้งวดแรกจากกองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) มูลค่า 1.3 หมื่นล้านยูโรจากจำนวนเงินกู้ทั้งหมด 8.6 หมื่นล้านยูโรเมื่อวันที่ 19 ส.ค. ที่ผ่านมา ทำให้กรีซสามารถจ่ายชำระหนี้มูลค่า 3.2 พันล้านยูโรต่อธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้ทันกำหนดในวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมา รวมถึงจัยตาการเลือกตั้งครั้งใหม่ของกรีซที่กำลังจะเกิดขึ้นด้วย
จับตาว่าจีนจะมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหรือไม่ เพื่อจัดการกับเศรษฐกิจของประเทศที่กำลังเผชิญกับภาวะชะลอตัว อย่างไรก็ดี ล่าสุดคณะกรรมการบริหารกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ตัดสินใจขยายระยะเวลาการทบทวนการนำสกุลเงินหยวนของจีนเข้าสู่ตะกร้าสกุลเงิน SDR(Special Drawing Right) ออกไปอีก 9 เดือน จากเดิมวันที่ 31 ธ.ค.2558 ไปเป็นวันที่ 30 ก.ย.2559 โดย IMF ให้เหตุผลว่ายังคงต้องการใช้เวลาเพิ่มเติมเพื่อพิจารณาประเด็นนี้อีกครั้งหนึ่ง
ข่าวเด่น