Strategy Today
ราคาทองจากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นถึง 8% และตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ออกมาย่ำแย่นักลงทุนอาจเข้ามาซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยอีกครั้ง อย่างไรก็ตามรองประธานเฟดระบุยังมีโอกาสที่เฟดจะประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า โดยสัปดาห์นี้นักลงทุนติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรรมของสหรัฐฯในช่วงปลายสัปดาห์ แนวต้าน US$1,142 แนวรับสำคัญ US$1,128
สรุปกลยุทธ์ : ข้าง Long Take profit หากราคาย่อไม่หลุด US$1,128 หรือปรับผ่าน US$1,142 เปิด Long จุดเปลี่ยนกลยุทธ์ US$1,128
Fundamental Summary
ราคาทองทรงตัวบริเวณ 1,134.10 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ (Gold Spot) เพิ่มขึ้น US$ 0.54 นายสแตนลีย์ ฟิชเชอร์ รองประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ไม่ได้ตัดโอกาสที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. แม้ตลาดจะผันผวนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้เป็นประเด็นที่มากดดันราคาทองคำอีกครั้ง ขณะที่ราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้น 8.8% สูง โดย ใน 3 วันที่ผ่านมา ปรับเพิ่มขึ้นถึง 27.5%ประกอบกับเช้านี้ตัวเลขเศรษฐกิจจีนออกมาอ่อนแอต่อหลังจีนอัดฉีดสภาพคล่องระยะสั้น (SLO) ด้วยอัตราดอกเบี้ย 2.35% ในระยะเวลา 6 วัน โดยดัชนีPMI ภาคอุตสาหกรรมของจีนออกมา 49.7 จุด ในเดือนส.ค. ต่ำสุดในรอบ 3 ปี ช่วยหนุนให้นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยอีกครั้ง ด้านค่าเงินบาทเคลื่อนไหวใกล้ระดับ 35.75 บาท/ดอลลาร์ วันนี้ติดตามPMIภาคอุตสาหกรรมและอัตราการว่างงานยุโรป PMI ภาคอุตสาหกรรมสหรัฐฯ กองทุน SPDR รายงานการถือสถานะทองคำที่ระดับ 682.59 ตัน ไม่เปลี่ยนแปลง
Technical Summary
ราคาทองทรงตัวบริเวณ US$1,134 โดยราคายังย่อลงไม่หลุด US$1,122 ซึ่งเป็นกรอบแนวรับด้านล่าง ทำให้ราคาปรับขึ้นอีกครั้ง แนวต้านอยู่บริเวณ US$1,142 ที่ Retracement 50.0% และ US$1,149 ที่ Retracement 61.8% หากราคาปรับไม่ผ่านอาจย่อตัวลงอีกครั้งโดยแนวรับอยู่บริเวณ US$1,128 ที่ Retracement 23.6% และ US$1,116 ที่จุดต่ำสุดเดิม
ข่าวเด่น