ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
YLG แนะหากราคาทองแตะแนวต้านที่ 1,148 -1,150 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้ขายทำกำไรบางส่วนเพื่อลดความเสี่ยง


สภาวะตลาดวันที่ 01 กันยายน 2558 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,134.88-1,144.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,300 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,250 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFV15 อยู่ที่ 19,510 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 40 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,470 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.19 น.ของวันที่ 01/08/15)

แนวโน้มวันที่ 2 กันยายน 2558

   ภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและภาวะทางการเงินที่ตึงตัวขึ้นทั่วโลก ประกอบกับการเตือนของว่า นางคริสติน ลาการ์ด การผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ที่มีมุมมองว่าเศรษฐกิจโลกอาจจะขยายตัวต่ำกว่าคาด เนื่องจากการฟื้นตัวช้าลงของประเทศพัฒนาแล้วและภาวะชะลอตัวลงอีกของกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ ความกังวลดังกล่าวเพิ่มแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ขณะที่แรงขายสินทรัพย์เสี่ยงยังคงเป็นปัจจัยหนุนทองคำอีกแรง ทั้งนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐปิดตลาดในเดือนสิงหาคมร่วงลงหนักที่สุดนับตั้งแต่ปี 2012 โดยดัชนีดาวโจนส์ร่วง 6.6%, ดัชนี S&P ร่วง 6.3% และดัชนี Nasdaq ร่วงลง 6.9% ขณะที่ราคาตลาดโลกเดือนสิงหาคมทะยานขึ้น 3.5 % เมื่อเทียบจากเดือนก่อนหน้า ซึ่งถือเป็นการพุ่งขึ้นครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม ความกังวลเรื่องเศรษฐกิจจีนกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อเพิ่มเติม ขณะที่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนในเดือนสิงหาคมร่วงลงสู่ 49.7 จาก 50.0 ในเดือนกรกฎาคม บ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนหดตัวลงในเดือนสิงหาคมในอัตราที่รวดเร็วที่สุดในรอบ 3 ปี และตัวเลขนี้ทำให้นักลงทุนกังวลว่าเศรษฐกิจจีนอาจจะชะลอตัวลงอย่างรุนแรงยิ่งขึ้นถึงแม้รัฐบาลจีนดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไปแล้วหลายมาตรการ รวมทั้งการที่ธนาคารกลางจีนปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมาแล้ว 5 ครั้งนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2014 สถานการณ์ดังกล่าวสะท้อนถึงภาคการผลิตหดตัวลงและภาคโรงงานของจีนยังคงได้รับแรงกดดันจากอุปสงค์ที่เฉื่อยชาทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยปัญหานี้ส่งผลให้บริษัทบางแห่งใช้กำลังการผลิตในระดับต่ำมาก จึงทำให้ทางวายแอลจีประเมินว่าการเคลื่อนไหวของราคาทองคำมีลักษณะการเคลื่อนไหวแบบ Sideway Up และราคายังมีการแกว่งตัวอยู่ซึ่งลงทุนควรติดตามข่าวสารและทิศทางตลาดเงินตลาดทุนอย่างใกล้ชิดซึ่งอาจจะส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ
   

กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำยังมีการเคลื่อนไหวในกรอบและคาดว่าราคาทองคำเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway Up โดยความผันผวนของราคาและการแกว่งตัวของราคาอาจลดลงจากช่วงที่ผ่านมา โดยให้เน้นไปที่การลงทุนระยะสั้น ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,134 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,123 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และเมื่อราคามีการปรับตัวสูงขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1,148-1,150 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจขายทำกำไรบ้างส่วนออกมาบ้างเพื่อลดความเสี่ยง แต่หากราคายืนเหนือแนวต้านได้มั่นคงสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้แนะนำให้ถือต่อเพื่อทำกำไรบริเวณแนวต้านถัดไปบริเวณ 1,167 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ทองคำแท่ง (96.50%)
   แนวรับ        1,134 (19,150บาท)        1,123 (18,970บาท)           1,112 (18,780บาท)     
   แนวต้าน      1,148 (19,390บาท)        1,167 (19,710บาท)           1,174 (19,830บาท)

GOLD FUTURES (GFV15)
   แนวรับ        1,134 (19,380บาท)        1,123 (19,190บาท)           1,112 (19,000บาท)     
   แนวต้าน      1,148 (19,610บาท)        1,167 (19,940บาท)           1,174 (20,060บาท)


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 01 ก.ย. 2558 เวลา : 18:05:34

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 3:42 am