พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุม ครม.ว่า นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำกับรัฐมนตรีว่า ในขณะนี้ด้วยเหตุการณ์ต่างๆส่งผลให้การทำงานมีมากขึ้น จึงถือเป็นเรื่องท้าทาย ดังนั้นควรใช้เวลาให้คุ้มค่าอย่างเต็มที่ ให้แต่ละกระทรวง กำหนดภารกิจของตัวเอง เป็นตัวนำในการทำงาน ระบุหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจนว่าทำงานเกี่ยวกับอะไร และต้องมีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรม
นอกจากนี้ นายกฯยัง ห่วงเรื่องที่อยู่อาศัย จะทำอย่างไรในการยกระดับ ตามชุมชนต่างๆให้อยู่บนตึกให้ได้ ให้กระทรวงทรัพยากรมนุษย์ฯ หารือกับภาคเอกชน เพื่อร่วมลงทุนกับรัฐบาลในการช่วยเหลือประชาชน ขณะเดียวกันยังระบุถึงการส่งเสริมสินค้าประเภท สิ่งทอ โดยให้แต่ละหน่วยงานไปคิดว่า การทำสินค้าให้เป็นพรีเมี่ยมต้องนำเข้าวัสดุต้นทุน เช่น หนัง ผ้า เพื่อให้สามารถแข่งขันต่างประเทศได้
พล.ต.วีรชน กล่าวว่า ที่ประชุมครม.เห็นชอบ เรื่องการเสนอหลักเกณฑ์ขั้นตอน ความเป็นอยู่ระดับตำบล โดยอนุมัติการจัดสรรงบประมาณการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบล ตำบลละ 5 ล้านบาท โดยงบประมาณที่จะจัดสรรแต่ละตำบลนั้น ให้นับรวมที่ได้รับการจัดสรรตามมาตรการเร่งด่วน และความยากจน ของกระทรวงมหาดไทยด้วย ซึ่งหากตำบลได้ได้รับการจัดสรรวงเงินครบ 5 ล้านบาทแล้ว จะไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณในมาตรการดังกล่าว แต่หากได้รับการจัดสรรเงินจากโครงการอื่นแล้ว แต่ยังไม่ครบวงเงิน จะได้รับการอนุมัติตามกรอบวงเงินที่เหลือ
สำหรับแนวทางการจัดทำงบประมาณ จะต้องเป็นโครงการเกี่ยวกับการซ่อมแซม เช่น ซ่อมแซมแหล่งน้ำ สถานพยาบาล โรงเรียน เป็นต้น โครงการส่งเสริมพัฒนาขุมชนตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง การเปลี่ยนแปลงอาชีพ การปลูกต้นไม้หรือป่าชุมชน การเพิ่มศักยภาพ การประกอบอาชีพ ส่งเสริมการประกอบอาชีพ เป็นต้น
ด้านหลักเกณฑ์การตรวจสอบ จะต้องผ่านคณะกรรมการหมู่บ้านหรือชุมชน และโครงการที่จัดทำขึ้นนั้นจะต้องไม่ซ้ำซ้อนกับโครงการของหน่วยราชการที่ดำเนินการอยู่ในพื้นที่ และเป็นโครงการที่หมู่บ้านต้องใช้ประโยชน์ได้อย่างต่อเนื่อง และใช้ได้ทันทีเมื่อมีการอนุมัติ และดำเนินการได้ภายในวันที่ 31 ธ.ค.นี้ สถานที่ดำเนินการจะต้องเป็นสถานที่สาธารณะ มีหนังสืออนุญาติให้ใช้ประโยชน์ เพื่อเป็นการจ้างงานในระดับตำบล ส่งเสริมการกระจายรายได้
ข่าวเด่น