ตลาดหุ้นวานนี้: ตลาดหุ้นไทยวานนี้ เปิดฟื้นตัว นำโดยกลุ่มพลังงาน / ปิโตรเคมี และ SCC/ SCCC หลังราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกฟื้น บวกกับแรงเก็งกำไรก่อนการประชุมเฟด และการเกิด Technical rebound ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX อยู่ที่ 1,381.80 จุด บวกเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 11.15 จุด มูลค่าการซื้อขาย 35,931 ล้านบาท กระแสเงินทุนต่างชาติเริ่มน่าสนใจ ด้วยการซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 มูลค่า 402 ล้านบาท กลับมา Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันแรกในรอบ 5 วันทำการ 2,820 สัญญา และะซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้ 992 ล้านบาท ปัจจัยสำคัญวันนี้ ติดตามการประชุมเฟด จะทราบผลการประชุมในคืนนี้ ตามเวลาประเทศไทย ติดตามการพิจารณาร่างกฎหมายการเปิดให้สหรัฐฯ กลับมาส่งออกน้ำมันได้หรือไม่ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในเช้าวันนี้ เช้านี้ค่าเงินบาทแข็งค่าเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ เด่น ค่าเงินแกว่งแข็งค่าบริเวณ 35.80-35.85 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ (8.18 น) มุมมองต่อตลาด เราคงมุมมองต่อการลงทุนเป็น “กลางถึงบวก” วันที่ 13 และให้โอกาสที่ SET INDEX จะไต่ระดับขึ้นทดสอบแนว 1,390 จุด +/- เพื่อเป็นการเก็งกำไรต่อผลการประชุมเฟดในคืนวันนี้ อีกทั้งเงินทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิทั้ง 3 ตลาดพร้อมกัน เราเชื่อว่าการกลับมาซื้อสุทธิของต่างชาติ น่าจะทำให้สถาบันภายในประเทศชะลอการขาย และอาจกลับมาซื้อสุทธิบางส่วนคืนได้เช่นกัน ผลของการประชุมเฟดในคืนวันนี้ ในมุมมองของเราประเมินว่า หากเฟดตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.00-0.25% ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ เราคาดว่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ จะกลับมาอ่อนค่า ค่าเงินตลาดเกิดใหม่กลับมาแข็งค่า ซึ่งน่าจะทำให้เงินทุนต่างชาติกลับเข้ามาเก็งกำไรต่อตลาดหุ้นในเอเชียเกิดใหม่ รวมถึงตลาดหุ้นไทย เราให้น้ำหนักส่วนนี้มากที่สุด แต่หากเฟดตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แต่จะไม่มากเท่ากับ 0.25% เราให้น้ำหนักกับกรณีนี้มากเป็นอันดับที่ 2 ซึ่งค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ จะทรงตัว ตลาดหุ้นทั่วโลกจะฟื้นตัวเด่น เพราะการตัดสินใจของเฟดในกรณี เท่ากับว่า การขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งถัดไป จะเป็นไปอย่างจำกัด เพราะยังไม่มั่นใจต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ มากนัก หรือหากเฟดตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเท่ากับ 0.25% เราให้น้ำหนักกรณีนี้น้อยที่สุด จะทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าเด่น ตลาดหุ้นทั่วโลกจะปรับฐานลงแรงชั่วคราว ก่อนจะฟื้นตัวในที่สุด เพราะสะท้อนถึงระดับความเชื่อมั่นของเฟดต่อทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทำให้ตลาดกลับมามองและเก็งกำไรในมุมนี้ในที่สุด ขณะที่กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง / กลุ่มวัสดุก่อสร้าง / กลุ่มธนาคาร จะยังมีความแข็งแกร่งเหนือภาพรวม SET INDEX ในช่วงสั้นนี้ หลังปลัดกระทรวงคมนาคม เตรียมเสนอแผนการลงทุนในโครงการรถไฟฟ้า 4 เส้นทางต่อครม.เพื่อพิจารณาและอนุมัติ ภายในสิ้นเดือนนี้ เพื่อเปิดทางสำหรับขั้นตอนการเปิดประมูลโครงการต่างๆ ในช่วงที่เหลือของปีนี้ กลยุทธ์การลงทุน ดังนั้น เราแนะนำ “นักลงทุนที่ทยอยสะสมหุ้นเป้าหมายในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา อาจพิจารณาขายทำกำไรบางส่วนบริเวณ 1,390-1,400 จุด” Top Pick in 3Q15: BCP / BMCL/ IFEC / WHA HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ ADVANC/ WHA/ BCP/ IFEC/ INTUCH/ KTB Speculative Buy: IRPC / SAMTEL
ข่าวเด่น