ทันทีที่คณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดประกาศคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม 0-0.25% ได้ส่งผลจิตวิทยาต่อการลงทุนในตลาดหุ้นนิวยอร์กที่นักลงทุนพากันเทขายหุ้นจนดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดเมื่อคืน (17 ก.ย.58 ) ปรับตัวลง โดยปิดที่ 16,674.74 จุด ลบ 65.21 จุด หรือลดลง 0.39% แม้ดัชนี NASDAQ จะปรับตัวเพิ่มขึ้น ปิดที่ 4,893.95 จุด บวก 4.71 จุด หรือเพิ่มขึ้น 0.10% แต่ดัชนี S&P500 ก็ปรับตัวลดลงเช่นกัน โดยปิดที่ 1,990.20 จุด ลบ 5.11 จุด หรือลดลง 0.26%
เหตุผลที่ทำให้ดาวโจนส์ปรับตัวลง คือความไม่มั่นใจในทิศทางเศรษฐกิจของสหรัฐที่อ่อนแอลง พร้อมกับตลาดการเงินที่ไร้เสถียรภาพ เนื่องจากการแถลงการณ์ของเฟดได้ระบุว่า เฟดกำลังจับตาสถานการณ์ในต่างประเทศ ซึ่งบ่งชี้ว่าเฟดมีความกังวลมากขึ้นว่าภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจนอกสหรัฐจะกระทบต่อเศรษฐกิจในอเมริกา นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านลดลง 3% ในเดือนส.ค. สู่ระดับ 1.126 ล้านยูนิต ขณะที้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านจะแตะระดับ 1.18 ล้านยูนิตในเดือนส.ค.
ข่าวเด่น