ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (22 ก.ย.58) ร่วงลง โดยดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 16,330.47 จุด ร่วง 179.72 จุด หรือลดลง 1.09% , ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,756.72 จุด ลบ 72.23 จุด หรือลดลง 1.50% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,942.74 จุด ลบ 24.23 จุด หรือลดลง 1.23%

ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปปิดตลาดเมื่อคืนร่วงลงเช่นกัน โดยดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 3.1% ปิดที่ 346.67 จุด ,ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปิดที่ 4,428.51 จุด ลบ 156.99 จุด หรือลดลง 3.42% , ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมัน ปิดที่ 9,570.66 จุด ลบ 377.85 จุด หรือลดลง 3.80% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดที่ 5,935.84 จุด ลบ 172.87 จุด หรือลดลง 2.83%
   

ปัจจัยที่ส่งผลให้ตลาดหุ้นอเมริกาและยุโรปร่วงลงอย่างหนัก คือ กรณีข่าวอื้อฉาวของโฟล์คสวาเกน เอจี ที่แจ้งข้อมูลเท็จในการทดสอบการปล่อยมลพิษจากรถยนต์รุ่นดีเซลให้ดูดีเกินจริง ขณะที่ทางการสหรัฐออกมาเปิดเผยว่าโฟล์คสวาเกนได้ติดตั้งซอฟท์แวร์ในรถยนต์ดีเซลเกือบ 5 แสนคัน เพื่อทำให้ดูเหมือนว่ามีการปล่อยไอเสียน้อยกว่าความเป็นจริง โดยหากพบว่าบริษัทมีความผิดจริง ทางการสหรัฐจะทำการปรับเป็นเงินจำนวน 37,500 ดอลลาร์ต่อคัน ซึ่งจะรวมกันมากกว่า 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือเกือบ 650,000 ล้านบาท ซึ่งข่าวดังกล่าวได้ฉุดหุ้นกลุ่มยานยนต์ร่วงลงยกแผง โดยเฉพาะหุ้นโฟล์คสวาเกนที่ร่วงลง 20% หุ้นเปอร์โยต์ ซีตรอง ดิ่งลง 8.8% หุ้นเฟียต ไครสเลอร์ ออโตโมบิล ร่วงลง 5.7% หุ้นฟอร์ด มอเตอร์ ดิ่งลง 1.9% และหุ้นเจนเนอรัล มอเตอร์ ร่วงลง 1.95%