ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวลงแรง จากบรรยากาศรอบเอเชียและยุโรปที่ไม่เอื้อ อีกทั้งตัวเลขส่งออกเดือนส.ค.ของไทย หดตัวแรง
กว่าคาด ส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าในอัตราเร่ง ขณะที่หุ้นหลักทั้ง SCC / PTT / AOT รวมถึงกลุ่มธนาคารเผชิญกับแรงขายค่อนข้างมาก
ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX ลบ 24.70 จุด มาอยู่ที่ 1,352.13 จุด มูลค่าการซื้อขายบางเพียง 28,592 ล้านบาท
เงินทุนต่างชาติลดน้ำหนักการลงทุนในอัตราเร่ง ขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 4 อีก 2,088 ล้านบาท Short สุทธิ SET50 Index Futures เป็นวันที่ 2 อีก 4,782 สัญญา และขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 มากถึง 3,948 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
ตลาดหุ้นเกาหลีปิดทำการ 28-29 ก.ย. เนื่องด้วยวันขอบคุณพระเจ้า
ตลาดหุ้นไต้หวันปิดทำการวันนี้ เนื่องจากอิทธิพลของพายุ
ติดตามการประชุม ครม. วันนี้ คาดพิจารณาแผนลงทุนรถไฟฟ้า 3 โครงการ และโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ 2 โครงการ มูลค่ากว่า 2
แสนล้านบาท
มูลค่าการซื้อขายเบาบาง สร้างความผันผวนต่อ SET INDEX มากขึ้น
เฟดสาขา New York และ San Francisco ประเมินว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้
มุมมองต่อตลาด
เราปรับมุมมองการลงทุนเป็น “กลาง” วันแรกในรอบ 21 วันทำการ จากเดิม “กลางถึงบวก” หลัง SET INDEX ปรับฐานลงแรงวานนี้ ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เบาบาง และคาดว่าจะชะลอตัวต่อเนื่องไปอีกระยะหนึ่ง จนกว่าจะเห็นสัญญาณเชิงบวกจากตัวเลขเศรษฐกิจภายในประเทศ นอกจากนี้ภาพทางเทคนิคมีแนวโน้มจะลงไปปิด Gap บริเวณ 1,330-1,335 จุด และแกว่งออกด้านข้างบริเวณดังกล่าว เพื่อรอดูผลการดำเนินงานของกลุ่มธนาคารในช่วงกลางเดือนต.ค.
อีกทั้งบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลก รวมถึงตลาดหุ้นในประเทศพัฒนาแล้ว (Development Market: DM) มีความเปราะบางเช่นกัน สะท้อนได้จาก VIX Index ที่วัดความผันผวนของ S&P500 อยู่ในระดับ 27.63 เป็นผลจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ / จีน ที่เริ่ม
ขาดโมเมนตัมการฟื้นตัว ผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ อย่าง Glencore ปรับตัวลงทำระดับต่ำสุดใหม่นับตั้งแต่ IPO ในปี 2554 จนต้องจ้าง IB มาศึกษาถึงแนวทางการขายธุรกิจบางส่วน หรือ Alcoa ประกาศแบ่งเป็น 2 บริษัทจดทะเบียน ตามธุรกิจเหมืองแร่และโลหะ ส่วนอีกบริษัทจดทะเบียนดำเนินธุรกิจด้านเทคโนโลยีระดับสูง คาดว่าจะเสร็จเรียบร้อยในการแบ่งธุรกิจช่วงกลางปี 2559
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยภายในประเทศที่เรายังสามารถให้น้ำหนักคือ การเร่งพิจารณาแผนการลงทุนขนาดใหญ่ วันนี้การประชุม ครม. คาดพิจารณาโครงการรถไฟฟ้า 3 เส้นทาง และโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ 2 แห่ง มูลค่ากว่า 2.0 แสนล้านบาท รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่ได้อนุมัติไปแล้ว จะเริ่มทยอยประมูลงานต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีนี้ เริ่มจากโครงการรถไฟรางคู่เส้น จิระ – ขอนแก่น / เส้นทางมอเตอร์เวย์ 2 เส้นทาง / สนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 / รถไฟความเร็วสูง ไทย-จีน ดังนั้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง / กลุ่มวัสดุก่อสร้าง / กลุ่มธนาคาร จะยังมีความโดดเด่น และเกาะไปกับกระแสของนโยบายจากทีมเศรษฐกิจที่จะผลักดันให้เป็นรูปธรรมอย่างเร็วที่สุด เพื่อเรียกความเชื่อมั่นจากภาคเอกชนทั้งในและต่างประเทศ
สำหรับภาพ SET INDEX วันนี้ เราให้โอกาสของการเกิด Technical Rebound สู่ด่าน 1,360-1,370 จุด ส่วนหนึ่งเป็นการ
ทำ Window Dressing โค้งสุดท้าย และการปรับพอร์ตการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับ SET50 Index Futures / SSF ของ Series “U” หมดอายุลง ณ ราคาปิดวานนี้ ทำให้เราให้น้ำหนักกับการฟื้นตัวของตลาดหุ้นไทยในวันนี้
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ “นักลงทุนอาจพิจารณาขายทำกำไรหุ้นที่สะสมมาก่อนหน้านี้ เมื่อ SET INDEX เกิดการฟื้นตัวระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย”
Top Pick in 3Q15: BCP / BMCL/ IFEC / WHA
HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ ADVANC/ WHA/ BCP/ IFEC/ INTUCH/ KTB
Speculative Buy: SAMTEL
ข่าวเด่น