สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -3.85 จุด หล่นครึ่งชม.สุดท้าย หวั่นงบ Q3 แย่
  

SET เปิดสูงปิดต่ำ โดยแกว่งในกรอบ 1344-58 ภาคเช้าขึ้นตามหุ้นโลก ขานรับ PMI จีนดีกว่าคาด แต่ค่อยๆ อ่อนตัวลง จนในช่วงครึ่งชม.สุดท้ายภาคบ่าย พลิกปิดลบ อาจกังวลงบ Q3 จะออกมาไม่ดี ต่างชาติพลิกซื้อสุทธิ 198 ลบ. ยุติการขาย 6 วันติดต่อกัน และ Long S50 Futures 1,086 สัญญา เป็นวันที่ 3

ทิศทางตลาดวันนี้ : ซึมลง ข้อมูลศก.สหรัฐฯ อ่อนแอเพิ่มความกังวลศก.โลก
  

หุ้นโลกเมื่อคืน (1 ต.ค.) ปิดผสมไร้ทิศทาง หลัง ISM ภาคผลิตของสหรัฐฯ ลดลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ พ.ค. 2013 มาที่ 50.2 ใน ก.ย. จาก 51.1 ใน ส.ค. แย่กว่าคาดที่ 50.6 ขณะที่จำนวนขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 10,000 ราย เป็น 277,000 ราย แย่กว่าคาดที่ระดับ 271,000 ราย เพิ่มความกังวลศก.โลก ด้านราคาน้ำมันอ่อนลง มอง SET แกว่งซึมลง ความกังวลศก.โลกชะลอตัวยังกดดันบรรยากาศการลงทุน และนลท.รอดูข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ คืนนี้ ซึ่งมีความสำคัญต่อการตัดสินใจขึ้นดบ.หรือไม่ในการประชุมปลายเดือนนี้ แนวรับ 1340+/- โดยเฉพาะถ้า SET หลุดแนวรับนี้ (ยืนยันหากต่ำกว่า 1336) น่าจะลงได้เร็วไปแถว 1310-20 แนวต้าน 1360+/- อนึ่ง คาดหุ้น PL-W1 ติด Cash Balance เย็นนี้ ?

กลยุทธ์การลงทุน : เด้งเป็นจังหวะขายลดพอร์ต, เน้น Wait & See เป็นหลัก
  

ท่ามกลางความกังวลต่อศก.จีน เรามองไม่ว่า FED จะตัดสินใจขึ้นดบ.ในการประชุมปลายเดือน ต.ค. หรือไม่ก็ตาม แนวโน้มหุ้นทั่วโลกน่าจะทรงกับลงเป็นหลัก นอกจากนี้ การที่ MSCI จะรวม American Depositary Receipts (ADRs) เข้าในการคำนวณดัชนี MSCI EM และ MSCI China เริ่มบังคับใช้เฟสแรกใน พ.ย. นี้ ถือเป็นประเด็นใหม่ที่จะกดดันให้แนวโน้มเงินทุนต่างชาติไหลออกต่อเนื่อง ขณะที่กำไรบจ.ไทยใน Q3 ที่คาดว่าจะแย่สุดของปีนี้ ภาพรวมเรายังแนะนำ Wait & See เป็นหลัก การดีดกลับขึ้นมาเป็นจังหวะขายลดพอร์ต SET ยังมีโอกาสลงต่อทดสอบจุดต่ำของปีนี้ที่ 1300+/- อีกครั้งในช่วง ต.ค. - พ.ย. อย่างไรก็ดี หากตลาดแข็งแกร่งกว่าคาด จนกลับมาปิดเหนือระดับ 1360 ได้ เราจึงจะมองมีโอกาสกลับมาเทรดดิ้งสั้นได้ แต่กรอบบนก็ยังน่าจะไม่เกิน 1390

   

ประเด็นหุ้นที่น่าสนใจ ราคาน้ำตาลขึ้นต่อเป็นวันที่ 6 สูงสุดใหม่รอบ 4 เดือน ดีต่อ BRR (ชอบสุด), KBS, KSL, KTIS / โครงการรถไฟฟ้า 6 สายทยอยเข้าครม.เร็วๆ นี้ หุ้นรับเหมา-วัสดุก่อสร้าง แนะนำ CK, STEC, SEAFCO, SCC, TPIPL / คลังเล็งลดค่าธรรมเนียมการโอน-ค่าจดจำนอง มองดีต่อผู้ประกอบการบ้านระดับกลาง-ล่าง LPN, PS, QH, SPALI แต่หุ้นที่เราชอบสุดในกลุ่มบ้าน ANAN, AP, QH / หุ้นมีสัญญาณเชิงบวก BEAUTY, TVT, WORK / หากตลท.ไม่ต่ออายุการติด Cash Balance อีก หุ้นที่สัปดาห์หน้า จะกลับมาซื้อขายปกติ คือ DAII (มีลุ้นสุด), DCORP, DCORP-W1, EIC, EIC-W1, EIC-W2, IFEC-W2, MAX, SEAOIL (มีลุ้นสุด)  
 

หุ้นเด่นรายสัปดาห์ ซื้อ BA (เป้าสั้น 20.7 บ.), DTAC (64 บ.) / ถือ BJC (32 บ.), ROJNA (6.5 บ.), TTA (11.5 บ.) / ขายทำกำไร-เปลี่ยนตัว TASCO (+5.7%), VNG (+2.2%), AMATA (-1.6%)

หุ้นเด่น ต.ค. ANAN, BJC, BTS, CK, GPSC, HMPRO, MAJOR, SPA


ปัจจัยติดตาม

2 ต.ค.
    

-การเปลี่ยนแปลงฐานเงินของญี่ปุ่นใน ก.ย., อัตราการว่างงานของญี่ปุ่นใน ส.ค.

 
-การจ้างงานนอกภาคเกษตร-อัตราว่างงานสหรัฐฯ ใน ก.ย., คำสั่งซื้อภาคโรงงานใน ส.ค.

5 ต.ค.
    
-ประชุมรัฐมนตรีคลังสหภาพยุโรป, PMI ภาคบริการและรวมทุกภาคสหภาพยุโรปใน ก.ย.

 
-ตัวเลขยอดค้าปลีกสหภาพยุโรปใน ส.ค., ตัวเลข ISM ภาคบริการของสหรัฐฯ ใน ก.ย.