ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวันศุกร์ที่ผ่านมา SET INDEX แกว่งในกรอบแคบแบบอ่อนแรง นอกจากเป็นการซื้อขายสุดท้ายของสัปดาห์แล้ว ค่าเงินบาทที่อ่อนค่า และตลาดหุ้นในกลุ่ม TIP อีก 2 ตลาดปรับฐานลง ยิ่งทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุน สะท้อนได้จากมูลค่าการซื้อขายที่เบาบางเพียง 23,570 ล้านบาท ส่วน SET INDEX ปิดที่ 1,346.35 จุด บวก 1.20 จุด
เงินทุนต่างชาติยังคงน่าสนใจ ซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 เล็กน้อย 115 ล้านบาท Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 4 อีก 5,986 สัญญา แค่ขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เล็กน้อ 14 ล้านบาทเท่านั้น
ปัจจัยสำคัญวันนี้
ตลาดหุ้นจีน ปิดทำการระหว่างวันที่ 1-7 ต.ค. เนื่องในวันชาติจีน
ตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าคาด
ติดตามการตัดสินใจประธาน กรธ. และคณะ รวมทั้งสิ้น 21 ท่าน
มุมมองต่อตลาด
เราคงมุมมองการลงทุนเป็น “กลาง” วันที่ 4 คงภาพ SET INDEX แกว่งกรอบแคบระหว่าง 1,340-1,355 จุด มูลค่าการซื้อขายเบาบาง ต่อเนื่อง แม้ว่า DJIA จะปิดบวกกว่า 200 จุด ในวันศุกร์ที่ผ่านมา และตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าคาด ยิ่งทำให้โอกาสที่จะเฟดจะตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ มีแรงกดดันมากยิ่งขึ้น รวมถึงกฎหมายงบประมาณของรัฐบาลสหรัฐฯ จะป้องกันการปิดหน่วยงานราชการ (Government Shutdown) มีผลถึงวันที่ 11 ธ.ค. เท่านั้น ส่งผลให้ตลาดจึงประเมินว่าเฟดน่าจะเลือกขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. 2559 มากกว่าปีนี้ แต่ด้วยความไม่แน่นอน ประธานเฟดสาขาต่างๆ ยังคงให้น้ำหนักกับการขึ้นดอกเบี้ยภายในปีนี้ เช่นเดียวกับประธานเฟด Janet Yellen ทำให้ตลาดเกิดความลังเล และชะลอการลงทุนในสินทรัพย์ทุกประเภท
สำหรับภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทยก็เช่นกัน มูลค่าการซื้อขายที่เบาบาง สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศชะลอตัวมากยิ่งขึ้น ตัวเลขเศรษฐกิจเริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวเล็กน้อยแต่ก็ยังไม่สามารถเรียกความเชื่อมั่นได้ อีกทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของทีมเศรษฐกิจเริ่มไม่ต่อเนื่อง อาจเป็นเพราะเงื่อนไขของขั้นตอน และการทำงาน แต่นักลงทุนภายในประเทศยังคงมีความหวังเป็นกลางถึงบวกเล็กน้อยต่อทำงานของรัฐบาล และทีมเศรษฐกิจ จึงเลือกที่จะ Wait&See มากกว่าจะลดน้ำหนักการลงทุน
เมื่อภาวะการลงทุนทั้งในและต่างประเทศเป็นกลาง ขาดความโดดเด่น หุ้นขนาดกลางที่มีความเด่นเฉพาะตัว ทั้งในแง่ของสตอรี่ / valuation / แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วง 2H58 กลางเป็นทางเลือกของการลงทุนในช่วงนี้ หุ้นขนาดใหญ่จะทรงตัวหรือแกว่งในกรอบแคบ
อย่างไรก็ตาม การซื้อขายที่เบาบางไม่ถึง 3.0 หมื่นล้านบาท/วัน ย่อมทำให้ SET INDEX มีความผันผวนที่มากขึ้น หรือ อาจเป็นการเลือกซึมตัวลงไปทดสอบและปิดแก๊ปบริเวณ 1,330-1,335 จุด ทั้งๆ ที่ไม่มีปัจจัยลบใหม่เข้ามาในช่วงนี้ก็ตาม
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ “นักลงทุนวันนี้อาจเลือกเก็งกำไรแบบจำกัดวงเงิน พร้อมกับกำหนดจุด Cut loss ของหุ้นที่เลือกเก็งกำไร โดยมุ่งเน้นไปยังกลุ่มอสังหาฯ และกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง” เพื่อเกาะกระแสกับมาตรการกระตุ้นและการทำงานของรัฐบาล
Top Pick in 3Q15: BCP / BMCL/ IFEC / WHA
HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ ADVANC/ WHA/ BCP/ IFEC/ INTUCH/ KTB
Speculative Buy: IRPC / QH
ข่าวเด่น