Market View  :    พลังงานนำทัพ
Stock of the town  :    NDR  UREKA
หุ้นแนะนำพิเศษ   :     TOP
หุ้นเด่นรายวัน  :  TAPAC PAF  KTC  ORI

  SET วานนี้ปรับตัวขึ้นตอบรับคาดการณ์ FED ยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวมถึงแรงซื้อหุ้น ADVANC หลังผบร.ทีโอทีสนใจแนวทางร่วมตั้งอินฟราฯฟันด์"เสาโทรคมนาคม" จำนวน 13,198 สถานีฐาน หนุนให้  SET ปิดบวกที่ 1,370.69 (+7.52 จุด) Volume 3.8 หมื่นลบ. ทั้งนี้ Foreign Net  +1,210 ลบ. , Net  Long TFEX 11,179 สัญญา

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

    + ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นแรงล่าสุด 49.35 USD/Barrel เนื่องจากปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลดลงในเดือนก.ย. พร้อมกับคาดการณ์ว่าการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐจะปรับตัวลดลงไปจนถึงช่วงกลางปี 2559
    + คาดการณ์ FED ยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง
    + ปลัดกระทรวงการคลังเผยว่ามาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ได้มีการสรุปเสนอไปยังรมต.คลังแล้วรอเข้าครม.ต่อไป
    - IMF ปรับลดคาดการณ์ GDP โลกในปีนี้ลงสู่ 3.1% และปีหน้าลงสู่ 3.6%
    - USA ตัวเลขขาดดุลการค้าเดือนส.ค. +15.6% เป็น 4.833 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงสุดในรอบ 5 เดือน จากผลกระทบการแข็งค่าของดอลลาร์, ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ดิ่งลง และการชะลอตัวในต่างประเทศ
    - กกร. ปรับลด GDP ไทย ปีนี้ลงเหลือ 2.5-3% จากเดิมที่คาดว่าจะโต 3-3.5% โดยภาคการส่งออกคาดว่าจะ-5%
    ราคาน้ำมันดิบที่ดีดตัวขึ้นแรงวานนี้ รวมถึงการคาดการณ์ FED ยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เป็นแรงหนุนที่สำคัญในการลงทุนวันนี้ ดังนั้นคาดว่า SET จะปรับตัวขึ้นโดยมีแนวต้านที่  1,380 – 1,385  จุด** ตลาดหุ้นจีน ปิดทำการ1 -7 ต.ค.เนื่องในวันหยุดเฉลิมฉลองวันชาติ


กลยุทธ์การลงทุน
แนะนำซื้อเก็งกำไรในกลุ่มที่มีปัจจัยบวก

    กลุ่มพลังงาน (PTT  PTTEP  PTTGC TOP ) ได้อานิสงส์ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นแรง
    กลุ่มส่งออก เช่น อาหาร และ อิเล็กทรอนิกส์ ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง ล่าสุด 36.23 Bath/USD
    ตลท. โรดโชว์ 10 หุ้น AMATA-CPN-GUNKUL-INTUCH-IRPC-KTB-KTC-NOK-PLANB-SAWAD ที่สหรัฐอเมริกา ช่วงวันที่ 7-8 ต.ค.นี้


ประเด็นข่าวลบ

    CHO ขสมก.มีแนวโน้มต้องเปิดประกวดราคาจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวีจำนวน 489 คันใหม่ เนื่องจาก กวพ.อ.มีข้อท้วงติงในหลายประเด็นทั้งเห็นชอบและไม่เห็นชอบในบางเรื่อง


หุ้นแนะนำพิเศษ
 TOP : ราคาปิด 56  ราคาเป้าหมาย  62 บาท

    คาดกำไรปี 2558  ที่ 12,724 ลบ. +416%YoY จากแรงหนุน 3 ธุรกิจหลักธุรกิจโรงกลั่น ค่าการกลั่นทรงตัวได้ดี และ ธุรกิจ Aromatic เริ่มกลับมาสร้างกำไรได้จากการปรับราคาขายประจำปี
    ได้อานิสงส์ราคาน้ำมันดิบที่ดีดตัวขึ้นแรงล่าสุด 49.26 USD/Barrel


หุ้นเด่นรายวัน

    TAPAC : (ราคาปิด 7.20 ซื้อเก็งกำไร) ดันสัดส่วนรายได้อสังหาริมทรัพย์ทะยานแตะ 50% ในปี 2559 ปั๊มผลงานโตแรง ส่วนปีนี้มั่นใจรายได้เข้าเป้า โต 10-12% จากปีก่อน แย้มอยู่ระหว่างศึกษาแผนลงทุนอสังหาต่างประเทศเพิ่ม ซุ่มเจรจาพาร์ตเนอร์เตรียมลุยโซลาร์ฟาร์ม โบรกมองต้าน 7.50 บาท (ที่มา:ทันหุ้น)
    PAF : (ราคาปิด 3.68 ซื้อเก็งกำไร) พลิกธุรกิจโตแรง "สมมาต ขุนเศษฐ" คอนเฟิร์ม 19 ต.ค.นี้ ขออนุมัติล้างขาดทุนสะสม เล็งธุรกิจใหม่ปั๊มกำไรโตยั่งยืน มั่นใจผลงานเข้าสู่ช่วงเทิร์นอะราวด์ พร้อมตั้งโต๊ะแจกปันผลมือเติบ วงการชี้ PAF เนื้อหอมทุนญี่ปุ่นจ้องเทกโอเวอร์ ตั้งราคาซื้อสูงเบียดคู่แข่ง "กลุ่มน้ำเมา" หวังป้อนโซลาร์ฟาร์มในประทเศและที่ญี่ปุ่น 80 เมกะวัตต์ (ที่มา:ทันหุ้น)
    KTC : (ราคาปิด 99 ซื้อเก็งกำไร) ผู้บริหารคาดว่ายอดการใช้จ่ายบัตรเครดิตจะเติบโต 13-14% ในไตรมาส 3 และเชื่อว่าอัตราการเติบโตจะสูงในไตรมาส 4 นี้ที่เป็นช่วงไฮซีซั่นบวกกับบริษัทจะมีการออกแคมเปญแบบเชิงรุก ซึ่งก่อนหน้านี้นั้น KTC นำเสนอบัตรเครดิตรูปแบบใหม่มีกลุ่มเป้าหมายที่เดินทางไปท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นเป็นประจำ ซึ่งคาดว่าจะช่วยเพิ่มยอดบัตรเครดิตใหม่เป็น 40,000 ใบภายใน FY15 (ที่มา : ข่าวหุ้น)
    ORI : (ราคา IPO 9) จะเริ่มซื้อขายในหมวดธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์วันนี้เป็นวันแรก ผลการดำเนินงาน 1H58 มีกำไร 230 ล้านบาทเติบโตก้าวกระโดดจาก 7 ล้านบาทใน 1H57


สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : +13.76  จุด
  ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,790.19 จุด เพิ่มขึ้น 13.76 จุด หรือ +0.08% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,979.92 จุด ลดลง 7.13 จุด หรือ -0.36% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,748.36 จุด ลดลง 32.90 จุด หรือ -0.69%
  โดยภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน หลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ และข้อมูลที่บ่งชี้ว่ายอดขาดดุลการค้าของสหรัฐพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 5 เดือน ขณะที่ดัชนี S&P500 และ NASDAQ ปิดตลาดในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนทุบขายหุ้นกลุ่มธุรกิจเพื่อสุขภาพ

ตลาดน้ำมัน NYMEX   : +2.27  ดอลลาร์/บาร์เรล
  สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 2.27 ดอลลาร์ หรือ 4.9% ปิดที่ 48.53 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) ระบุว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลดลงในเดือนก.ย. พร้อมกับคาดการณ์ว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐจะปรับตัวลดลงไปจนถึงช่วงกลางปี 2559 ซึ่งรายงานดังกล่าวทำให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาด