| 
          
            |  |  
            | 
        
          |  |  
          |   |  
          |  |  
      |  |  
          |  
 
 | ตลาดหุ้นวานนี้:ตลาดหุ้นไทยวานนี้เกิดการปรับฐานลง จากแรงกดดันของราคาน้ำมันดิบที่ลดลงกว่า 5% ในคืนก่อนหน้า บวกกับค่าเงินบาทที่อ่อนค่าเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ รวมถึงแรงขาย sell on fact กลุ่มอสังหาฯ อย่างไรก็ตาม แนวรับ 1,400 จุดยังทำงานได้อย่างแข็งแกร่ง ปิด ณ สิ้นวันที่ 1,406.69 จุด ลบเล็กน้อย 5.80 จุด มูลค่าการซื้อขาย 47,395 ล้านบาท
 เงินทุนต่างชาติขายทำกำไรเล็กน้อยในตลาดหุ้นไทย ขายสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 6 วันทำการ เพียง 81 ล้านบาท Short สุทธิใน SET50 Index Futures วันแรกในรอบ 11 วันทำการ เพียง 1,366 สัญญา แต่ยังคงซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 6 อีก 8,639 ล้านบาท
 
 ปัจจัยสำคัญวันนี้
 ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของจีนในเช้านี้
 ธนาคารกลางสิงคโปร์ผ่อนคลายนโยบายการเงินเป็นครั้งที่ 2 ในรอบปีนี้
 ติดตามรายงาน Beige Book คืนนี้ เพื่อประเมินภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯ
 มาตรการอสังหาฯ เชื่อว่าจะสามารถกระตุ้นยอดขายบ้านและคอนโดมิเนียมราคาไม่เกิน 3.0 ล้านบาท เด่นใน 4Q58-1Q59
 
 มุมมองต่อตลาด
 เราคงมุมมองการลงทุน “กลางถึงบวก” วันที่ 5 แนวรับบริเวณ 1,400 จุด ยังทำงานได้อย่างแข็งแกร่ง การปรับฐานรอบสั้นๆ หลังจากที่ SET INDEX ดีดตัวขึ้นเกือบ 5% ในสัปดาห์ก่อนหน้า เป็นสิ่งที่สมเหตุสมผล แต่ในภาพรวมเรายังคงให้น้ำหนักกับการไต่ระดับขึ้นทดสอบด่านสำคัญ 1,440-1,450 จุด ทั้งนี้จับตากลุ่มธนาคาร แนวโน้มผลการดำเนินงาน 3Q58 อาจไม่แย่อย่างที่ตลาดคาดการณ์ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการควบคุมต้นทุนการดำเนินงาน และ ต้นทุนการเงิน มีโอกาสที่จะออกมาต่ำกว่าที่ตลาดประเมิน ซึ่งหุ้นหลักในกลุ่มธนาคาร
 จะทยอยประกาศในต้นสัปดาห์หน้า ดังนั้น แรงขายในกลุ่มธนาคารจะจำกัดไประยะหนึ่ง แต่หากราคาหุ้นย่อตัวลง เราเชื่อว่าสถาบันทั้งในและต่างประเทศจะทยอยสะสมหุ้นกลุ่มนี้ ที่ลดน้ำหนักการลงทุนมาตลอด 9 เดือนก่อนหน้านี้
 ขณะที่กลุ่มอสังหาฯ วานนี้เกิดเหตุการณ์ Sell on Fact โดยกลุ่มนี้ปรับฐานลง 1.74% หลัง ครม.อนุมัติมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาฯ เป็นเวลา 6 เดือน โดยมีมาตรการเพิ่มเติมคือ การนำ 20% ของมูลค่าบ้านที่มีราคาไม่เกิน 3.0 ล้านบาท มาหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ เป็นมาตรการกระตุ้นที่มีนัยยะสำคัญในมุมมองของเรา ยอดการโอนที่อยู่อาศัยในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ ต่อเนื่องถึง 1Q59 จะฟื้นตัวอย่างมีนัยยะสำคัญ เป็นบวกต่อหุ้นที่มีฐานลูกค้าระดับกลางถึงล่าง อย่าง PS / LPN / SPALI เป็นต้น
 ด้านเงินทุนต่างชาติในมุมมองของเรายังคงเป็นบวก แม้ว่าวานนี้จะขายสุทธิในตลาดหุ้นวันแรกในรอบ 6 วันทำการ แต่ก็เพียงเล็กน้อย และการปิดสถานะ Long ใน SET50 Index Futures วันแรกในรอบ 11 วันทำการ ถือว่าเป็นเพียงเล็กน้อยเช่นกัน และสมเหตุสมผล เมื่อ S50Z15 ต่ำกว่า SET50 Index เพียง 1-2 จุด ระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย แต่ยอดสุทธิสะสม QTD ยังคงเป็น Long สูง 65,451 สัญญา เราจึงยังเชื่อว่านักลงทุนต่างชาติยังคงให้ความสนใจกับตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง
 ปัจจัยต่างประเทศ วันนี้ เราแนะนำให้ติดตามรายงาน Beige Book เพื่อสรุปภาวะเศรษฐกิจ การจ้างงาน ตลาดอสังหาฯ การผลิต/บริการ ใน 12 เขตเศรษฐกิจ ก่อนประชุมเฟดในช่วงปลายเดือนต.ค. หากภาพรวมส่งสัญญาณชะลอตัวจากผลกระทบของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งค่า และเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ย่อมเป็นการยืนยันว่า เฟดจะเลื่อนการพิจารณาขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปเป็นปีหน้าย่อมมีน้ำหนักมากยิ่งขึ้น เป็นบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง โดยเฉพาะตลาดหุ้นเกิดใหม่ (Emerging Markets) ต่อเนื่อง และทิศทางค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าต่อเนื่อง
 
 กลยุทธ์การลงทุน
 ดังนั้น เราแนะนำ “นักลงทุนที่เก็งกำไรมาก่อนหน้านี้ ควรถือเพื่อรอขายทำกำไรรอบนี้บริเวณ 1,440 จุด +/- แต่หากหุ้นเป้าหมายกลับปรับฐานลงระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย กลายเป็นจังหวะของการเพิ่มน้ำหนักเก็งกำไรมากขึ้น”
 
 
 Top Pick in 4Q15: BMCL / ITD/ TMB/ TPIPL
 HOLD: ITD / TPIPL/ ADVANC/ WHA/ IFEC/ INTUCH/ KTB
 Speculative Buy: KTB
 |  
        	| บันทึกโดย : วันที่ :
14 ต.ค. 2558 เวลา : 10:19:20
 |  
          |   
 |  |  |  | 
    
ข่าวเด่น