ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวานนี้เปิดซึมตัวลงสู่แนวรับ 1,400-1,405 จุด จากแรงขายทำกำไรในกลุ่มพลังงาน แต่ด้วยค่าเงินบาทที่แข็งค่าเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ และการฟื้นตัวของหุ้นหลักในกลุ่มธนาคาร นำโดย BAY และกลุ่มปิโตรเคมี ปิด ณ สิ้นวันที่ SET INDEX อยู่ที่ 1,405.08 จุด ลบเป็นวันที่ 2 เล็กน้อย 1.61 จุด มูลค่าการซื้อขายชะลอตัวเหลือ 36,375 ล้านบาท
เงินทุนต่างชาติชะลอตัวเป็นวันที่ 2 แม้คงการขายสุทธิตลาดหุ้นเป็นวันที่ 2 อีก 924 ล้านบาท และขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันแรกในรอบ 7 วันทำการ 3,520 ล้านบาท แต่กลับมา Long สุทธิใน SET50 Index Futues เท่ากับ 593 สัญญา ขณะที่ค่าเงินบาทแข็งค่าราว 15-20 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐฯ ระหว่างชั่วโมงการซื้อขายวานนี้
ปัจจัยสำคัญวันนี้
รายงาน Beige Book ภาพรวมเศรษฐกิจเติบโตปานกลาง และเริ่มเห็นสัญญาณของการชะลอตัวในบางเขต เมื่อเทียบกับรายงานชุดก่อน
DJIA คืนวานนี้ปรับฐานลงหลุดแนว 17,000 จุด จากผลของ Wal-Mart รายงานงบออกมาต่ำกว่าคาด และส่งสัญญาณแนวโน้มชะลอตัว
ทุกๆ การเคลื่อนไหว 1 บาทของหุ้น BAY จะมีผลต่อ SET INDEX ราว 0.78 จุด
มุมมองต่อตลาด
เราคงมุมมองการลงทุน “กลางถึงบวก” วันที่ 6 พร้อมประเมินกรอบแกว่ง SET INDEX ระหว่าง 1,400-1,415 จุด มูลค่าการซื้อขายยังคงอยู่ในระดับเฉลี่ย 4.0 หมื่นล้านบาท/วัน ใกล้เคียงกับวานนี้ เพราะ ณ ปัจจุบันยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ากำหนดทิศทางการลงทุนของตลาดหุ้นไทย เพียงแต่กลุ่ม Domestic ยังคงแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับภาพรวมของ SET INDEX ได้แก่
กลุ่มธนาคาร: นักลงทุนส่วนใหญ่ถือรอดูผลการดำเนินงานใน 3Q58 ซึ่งหุ้นหลักจะเริ่มทยอยประกาศตั้งแต่วันจันทร์หน้าเป็นต้นไป เราคาดว่ามีโอกาสที่งบจะออกมาดีกว่าที่คาดได้ จากค่าใช้จ่ายการดำเนินงาน และการบริหาร NIM
กลุ่มอสังหาฯ: แนวโน้มผลการดำเนินงานใน 4Q58-1Q59 จะออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ณ ปัจจุบัน หลังครม.อนุมัติมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาฯ และมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 19 ต.ค.นี้ เป็นเวลา 6 เดือน
กลุ่ม ICT: โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นหลักของกลุ่ม ต่อประเด็นเก็งกำไรการประมูลใบอนุญาต 4G คลื่นความถี่ 1800 วันที่ 11 พ.ย. และ คลื่นความถี่ 900 วันที่ 12 พ.ย. แม้ว่าผลการดำเนินงานใน 3Q58 ของกลุ่มผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่จะอ่อนแอลง qoq ก็ตาม
กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง: ต่อการเปิดประมูลโครงการขนาดใหญ่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นมอเตอร์เวย์ 1 เส้นทาง รถไฟรางคู่ 2 เส้นทาง ที่รอการยื่นประมูลแบบ E-Auction ในเดือนหน้า
ขณะที่กลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี มีแรงกดดันอ่อนๆ จากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ซึมตัวลง แต่การปรับตัวลงของ 2 กลุ่มนี้ตลอด 3 วันทำการที่ผ่านมา 2.28% และ 0.25% ตามลำดับ เราเชื่อว่า หุ้นหลักใน 2 กลุ่มนี้จะเริ่มทรงตัวได้ดีขึ้น แม้ว่าราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะยังไม่ฟื้นตัวก็ตาม
ด้วยประเด็นข้างต้น ทำให้เราเชื่อว่า SET INDEX จะยังแกว่งในกรอบแคบ เพื่อรอความชัดเจนของประเด็นเอื้อต่อการเก็งกำไรในตลาดหุ้นไทยในระยะถัดไป จากการทยอยประกาศผลการดำเนินงาน 3Q58 เป็นสำคัญ
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ “นักลงทุนที่เก็งกำไรมาก่อนหน้านี้ ควรถือเพื่อรอขายทำกำไรรอบนี้บริเวณ 1,440 จุด +/- แต่หากหุ้นเป้าหมายกลับปรับฐานลงระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย กลายเป็นจังหวะของการเพิ่มน้ำหนักเก็งกำไรมากขึ้น”
Top Pick in 4Q15: BMCL / ITD/ TMB/ TPIPL
HOLD: ITD / TPIPL/ ADVANC/ WHA/ IFEC/ INTUCH/ KTB
Speculative Buy: IFEC / TPIPL
ข่าวเด่น