ตลาดหุ้นโลกปิดเมื่อคืน(15 ต.ค.58) คึกคัก ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ดัชนีดาวโจนส์พุ่งทะยาน ปิดที่ 17,141.75 จุด เพิ่มขึ้น 217.00 จุด หรือ +1.28% , ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,870.10 จุด เพิ่มขึ้น 87.25 จุด หรือ +1.82% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,023.86 จุด เพิ่มขึ้น 29.62 จุด หรือ +1.49%
 
ส่วนตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 1.5% ปิดที่ 360.99 จุด , ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปิดที่ 4,675.29 จุด เพิ่มขึ้น 66.26 จุด หรือ +1.44% , ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมัน ปิดที่ 10,064.80 จุด พุ่งขึ้น 148.95 จุด หรือ +1.50% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดที่ 6,338.67 จุด เพิ่มขึ้น 69.06 จุด หรือ +1.10%

โดยภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างคึกคัก หลังนักลงทุนแห่เข้าซื้อหุ้นกลุ่มธนาคาร ภายหลังซิตี้กรุ๊ป อิงค์ เปิดเผยตัวเลขกำไรพุ่งกว่า 50% ในไตรมาส 3 สู่ระดับ 4.29 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.35 ดอลลาร์ต่อหุ้น เมื่อเทียบกับระดับ 2.84 พันล้านดอลลาร์ หรือ 88 เซนต์ต่อหุ้นในช่วงเดียวกันปีก่อน และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าซิตี้กรุ๊ปน่าจะมีกำไรต่อหุ้นที่ 1.28 ดอลลาร์ในไตรมาส 3 ซึ่งผลประกอบการที่แข็งแกร่งของซิตี้กรุ๊ปหนุนให้หุ้นในกลุ่มธนาคารพุ่งขึ้นตาม ไม่ว่าจะเป็น หุ้นเจพีมอร์แกน เพิ่มขึ้น 3.2% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา เพิ่มขึ้น 3.5% หุ้นคีย์คอร์ป เพิ่มขึ้น 4.7% หุ้นซิตี้กรุ๊ป เพิ่มขึ้น 4.4% และหุ้นโกลด์แมน แซคส์ เพิ่มขึ้น 3%
   

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้ว ลดลง 7,000 ราย สู่ระดับ 255,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 40 ปี เป็นสัญญาณบ่งชี้ตลาดแรงงานสหรัฐมีความแข็งแกร่ง
  

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ รวมถึงข้อมูลเงินทุนไหลเข้าและยอดซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐของต่างชาติเดือนส.ค., การผลิตภาคอุตสาหกรรม-อัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนก.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนต.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
 

สำหรับด้านตลาดหุ้นยุโรปที่ดัชนีปรับตัวสูงขึ้น เกิดจากแรงหนุนผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทขนาดใหญ่ โดยเฉพาะยูนิลีเวอร์ ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ด้านสินค้าอุปโภคบริโภค ที่ระบุ ยอดขายเพิ่มขึ้น 5.7% ในไตรมาส 3 ปีนี้ และธุรกิจของบริษัทประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีในตลาดเกิดใหม่ โดยหุ้นยูนิลีเวอร์ พุ่งขึ้น 3.6% ส่วนหุ้น ProSiebenSat.1 Media ปรับขึ้น 3.3% หลังบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการ
  

นอกจากนี้ หุ้นแมนกรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทจัดการกองทุนรายใหญ่ระดับโลก เพิ่มขึ้นด้วย 5.2% หลังบริษัทเปิดเผยกระแสเงินทุนหมุนเวียนสุทธิในช่วงไตรมาส 3 อยู่ที่ 1.4 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งตรงข้ามกับในช่วง 2 ไตรมาสก่อนหน้านี้ที่ทางบริษัทเผชิญกับภาวะกระแสเงินทุนไหลออก
 

อย่างไรก็ตาม หุ้นโฟล์คสวาเกนที่อื้อฉาวในช่วงก่อนหน้านี้ยังคงร่วงลง 3.6% หลังกระทรวงการขนส่งของเยอรมนีมีคำสั่งให้บริษัทโฟล์คสวาเกน เอจี ดำนินการเรียกคืนรถยนต์ดีเซลที่มีการติดตั้งซอฟท์แวร์โกงการตรวจจับไอเสีย โดยให้เริ่มดำเนินการในปี 2016 นอกจากนี้ โฟล์คสวาเกนจะต้องนำเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาทางเทคนิคสำหรับรถยนต์ที่มีปัญหาดังกล่าวภายในปลายเดือนหน้าอีกด้วย