Rotations                
  

วันนี้คาดดัชนีฯ พักอยู่ในกรอบ แนวรับ 1,417 ต้าน 1,435 จุด จากหุ้นใหญ่พักบ้าง แต่ตลาดจะหมุนมาเล่นหุ้นขนาดกลาง-เล็ก แทน คาดแรงซื้อต่างชาติชะลอเพื่อรอดู GDP จีน ที่จะประกาศวันจันทร์นี้ ว่าจะดีหรือแย่กว่าคาดที่ 6.8% (คาดถ้าไม่แย่ไปกว่านี้ มีโอกาสพักแล้วขึ้นต่อ) และยังต้องจับตาการแข็งค่าของเงินบาทรอบนี้ และ เงินทุนต่างชาติที่ไหลมาพักในตลาดพันธบัตรรอบนี้ว่าจะมีสัญญาณอะไรให้ต้องระวังบ้าง (แต่ตอนนี้ยังไม่มี)       
  

Update ระยะสัปดาห์ สัปดาห์นี้ดัชนีฯได้สร้างฐานบริเวณ 1,400 จุด สัปดาห์หน้าลุ้นรักษาระดับแนวรับ 1,400 จุด (หลุด 1400 ควรหยุดเล่นสั้น แล้ว Wait and see) เพื่อขึ้นทดสอบ แนวต้านสำคัญรอบนี้ (ที่เดิม) 1,450 จุด ภายในเดือนนี้   
  

ระยะเดือน (ตค.) หลังจากไม่หลุดแนวรับ 1,340 จุด ส่งผลหุ้นไทยไม่แย่อย่างวิตก กลยุทธ์เราได้แนะนำให้แบ่งพอร์ตเริ่มซื้อคืน 20/30% ตั้งแต่ ปลาย สค. เราคงคำแนะนำ ใครที่ซื้อตาม พิจาณาเก็บเงินสดส่วนที่เหลือรอซื้อเพิ่มเมื่อปรับฐาน หรือ ขายเล่นสั้น แล้วซื้อเล่นใหม่ กลุ่มเด่นที่ลงแล้วน่าซื้อ 1) กลุ่มเชื่อมโยงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 2) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง วางระบบฯ 3) โรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน    
 

หุ้นแนะนำวันนี้ ICHI (เราปรับคำแนะนำขึ้น เป็น ซื้อ ดูรายงานวันนี้) SYNEX (HUAWEI-US เปิดตัวระบบสื่อสารองค์กรใหม่แล้วเมื่อวานนี้ พร้อมทำตลาดทั่วโลก คาด SYNEX ได้ประโยชน์จากเป็นตัวแทนวางระบบของหัวเว่ยในภูมิภาคนี้ ซึ่งเป็นงานที่ให้มาร์จิ้นสูง)

BLS รายงานพื้นฐานวันนี้

(-) SAPPE เราปรับคำแนะนำลงเป็น “ขาย” เต็มมูลค่า (จาก ถือ) ซึ่งสวนทางกับคำแนะนำของ consensus เพราะเรามองว่าปัจจัยกดดันต่อราคาหุ้นในระยะ 6 เดือนข้างหน้ายังคงมีอยู่ จาก 1) กำไร 3Q15 แนวโน้มไม่ดีตามคาด  2) กำไรมีแนวโน้มอ่อนแอต่อเนื่องในช่วง 6 เดือนข้างหน้า เพราะ low season 3) มีแนวโน้มจะเห็นตลาดปรับคาดการณ์กำไรลงเพื่อสะท้อนยอดขายที่เติบโตน้อยกว่าคาด ดังนั้นเราปรับลดประมาณการกำไรปี 2015-16 ลง 9% และ 20% เหลือ 398 และ 439 ล้านบาท เพื่อสะท้อนยอดขายที่เติบโตต่ำกว่าคาด ราคาหุ้น SAPPE เทรดบน P/E 19.3 เท่า เราแนะนำเปลี่ยนตัวเล่นไปซื้อ ICHI ที่ถูกกว่าโดยเทรดบน P/E เพียง 16.5 เท่า
  

(+) ICHI หลังจากที่แนะนำขายมาตั้งแต่ต้นปีราคาหุ้นลงมาตามคาด จากนั้นเราแนะนำถือ เพราะ Downside เริ่มจำกัด ตอนนี้ เรามองว่าแรงกดดันต่อราคาหุ้นได้หมดไป และคาดจากผลประกอบการกำลังจะผ่านจุดต่ำสุดใน 3Q15 เรามองว่า ราคาหุ้นจะเริ่มปรับตัวขึ้นสะท้อนผลประกอบการที่มีแนวโน้มเติบโตขึ้นตลอดช่วง 3 ไตรมาสข้างหน้า ซึ่งมีปัจจัยหนุนจากการรับรู้รายได้จากการส่งสินค้าไปจำหน่ายที่อินโดฯ ช่วยหนุนอัตรากำไรขั้นต้นให้ดีขึ้น เราปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ” (จากเดิม ถือ) ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 19.20 บาท (อิงคาดการณ์กำไรปี 2016 ที่ P/E 19 เท่า) ราคาหุ้นปัจจุบันอยู่บน P/E เพียง 16.6 เท่า เท่านั้น มี upsides ต่อค่าเฉลี่ยของกลุ่มฯที่ 20 เท่า อยู่ราว 21%
  

(-) BR เราปรับลดกำไรปี 2015-16 ลงอีก 11% และ 16% ตามลำดับ เหลือ 599-664 ล้านบาท ส่งผลให้ราคาเป้าหมายลดลง 17% เหลือ 11.5 บ.  

หุ้นมีข่าว
  

(+) TPCH เปิดเผย ได้ขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์จากโรงไฟฟ้าชีวมวลที่แม่วงก์แล้ว กำลังผลิต 8MW รับรู้รายได้ทันทีหนุนกำไรช่วงที่เหลือของปีนี้ดีขึ้น (ที่มา แนวหน้า) และมีกระแสข่าว กกพ.ออกร่างรับซื้อไฟฟ้าชีวมวล และ ชีวภาพ รวม 46MW ในพื้นที่ภาคใต้ (3 จังหวัดชายแดน และ 4 อำเภอ สงขลา) (ที่มา แนวหน้า)
  

(+) SAMART (ที่มาทันหุ้น) เตรียมชงบอร์ด ซื้อโรงไฟฟ้าขยะเพิ่มอีก 1-2 แห่ง ทางภาคเหนือ / หลังจาก กกพ.ออกร่างรับซื้อไฟฟ้าฯ เป็นที่ชัดเจน เราคาดว่าราคาหุ้นกลุ่มพลังงานทดแทนจะเริ่มฟื้นตัว และ Outperform ตลาดในช่วงที่เหลือของปี   
  

(+) TCAP TISCO KKP THANI (-) AUCT รมว.คลัง ยืนยันจะไม่มีการปลดล็อคการถือครองรถยนต์คันแรก จาก 5 ปีเหลือ 3 ปี / คาดเป็นบวกต่อราคาหุ้นกลุ่มเช่าซื้อ เพราะตลาดไม่ต้องมากังวลว่าจะได้รับผลกระทบจากการตั้งสำรองราคารถยนต์มือสองที่จะตกแรงในปีหน้าถ้ามีการปลดล็อค
  

(+) SYNEX หัวเว่ยสหรัฐฯ ได้เปิดตัวระบบโซลูชั่นใหม่ ในงาน Cable Tec Expo ที่สหรัฐฯ เมื่อวานนี้ โดยเป็นระบบสำหรับการสื่อสารฯระหว่างองค์กร หรือ MSO คือการนำเสนอแบบ Multi-screen แทนการให้บริการแบบดั้งเดิมของคู่แข่ง หรือ OTT (เมื่อก่อนแบรนด์ที่ดัง คือ CISCO) ปัจจุบันได้ขยายตลาดไปกว่า 45 ประเทศทั่วโลก (ที่มา ข่าวหุ้นอินไซด์ 15 ตค.) / คาดเป็นบวกต่อ SYNEX เพราะ หัวเว่ย ให้สิทธิ SYNEX เป็นผู้รับงานวางระบบสื่อสารฯดังกล่าวแก่ลูกค้าองค์กร ในภูมิภาคแถบนี้   
  

(+) (กลุ่มรับเหมาฯ และ ผู้วางระบบฯ) รมว.คมนาคมเผยเพิ่มการลงทุนเชื่อมเส้นทาง รถไฟความเร็วสูง ตะวันออก สู่ ตะวันตก เส้นทางกาญจนบุรี กรุงเทพ สระแก้ว แหลมฉบัง รองรับ นิคมอุตสาหกรรมทวาย ส่วน รถไฟความเร็วสูงที่จะให้เอกชนลงทุน ได้แก่ กรุงเทพหัวหิน 160 กม. และ กรุงเทพ ระยอง 220 กม. คาดเปิดดำเนินการได้ต้นปี 2016 (ที่มา ASPEN)  
  

(+) กลุ่มแบงก์ คาดกำไร 3Q15 เป็นไตรมาสที่ต่ำสุดของปี และกำไรดีขึ้น ใน 4Q15 โดยกำไร 3Q15 คาด BAY TMB TCAP โตโดดเด่นสุดในกลุ่ม (ที่มา BLS)
 

(+) COM7 เริ่มขาย IPhone 6s อย่างเป็นทางการ 30 ตค.นี้
  

(-) กลุ่มมือถือ: ทศท.เตรียมประชุม 20 ตค. ขอศาลคุ้มครอง งดประมูลคลื่น 900MHz คาดกดดันราคาหุ้น ADVANC INTUCH มากสุด
  

(+) หุ้นอุปโภค บริโภค และ สินเชื่อเศรษฐกิจฐานราก (TSR ICHI MTLS SAWAD GL ฯลฯ) ผู้บริหารสหพัฒน์ ชี้พบสัญญาณการฟื้นตัวของกำลังซื้อผู้บริโภค จากความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ พร้อมทั้งฟันธงเศรษฐกิจไทยผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว   

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
  

(+) NDRC คณะกรรมการเพื่อการปฏิรูปฯ เผย 9 เดือนแรก อนุมัติงบลงทุนไปแล้วกว่า 1.81 ล้านล้านหยวน คาดหนุน GDP 3Q15  ที่จะประกาศวันจันทร์นี้ โตได้ไม่น้อยกว่า 6.8% ตามที่นักเศรษฐศาสตร์คาด
  

(+) ธปท.คาด กระแสเงินทุน ระยะสั้น ไหลเข้าเอเชีย รวมไทย หลังตลาดคาดเฟดมีโอกาสชะลอขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ ส่งผลนักลงทุนไล่ซื้อสินทรัพย์เสี่ยงคืน
  

(+) เราพบรายงานโบรกเกอร์ต่างชาติ เริ่มกลับมาแนะซื้อหุ้นไทยตั้งแต่ปลายเดือน กย. / บาร์เคลย์ แคปิตอล, โกล์ดแมน แซค, มอร์แกนฯ ส่วน โนมูระ คาดเงินทุนจากญี่ปุ่น มีโอกาสไหลเข้าตลาดอาเซียน ผ่านทั้งการ M&A, การลงทุนโดยตรง (FDI) และ การลงทุนในตลาดหุ้น โดยหุ้นที่มองว่ามีโอกาสเข้าลงทุน ได้แก่ อาหาร (TUF CPF SAPPE CBG ICHI) พลังงานทดแทน นาโนไฟแนนซ์ (SAWAD MTLS THANI) แบงก์ (LHBANK) และหุ้นที่ติดโผอื่นๆ EA EGCO MINT SCCC AMATA BEAUTY KAMART    
  

(+) เมื่อวันอังคาร 13 ตค. จีน ตัวเลขส่งออก (กย.) -3.7% ดีกว่าคาดที่ -6% จาก -5.5% y-y สอดคล้องกับตัวเลขส่งออกของ ไต้หวัน และ เกาหลีใต้ที่ติดลบน้อยลง ดีกว่าคาด (Korea -8.3% y-o-y in September from -14.9% and Taiwan -14.6% from -14.8%)
  

(-) เมื่อวันพุธ เงินเฟ้อจีน (กย.) +1.6% แย่กว่าคาดที่ +1.8% จาก +2% (วิตกภาวะเงินฝืดในจีน)
 

(+) เมื่อวาน ธนาคารกลางอินโดนีเซีย และ เกาหลีใต้  คงดอกเบี้ย 7.5% และ 1.5% ตามคาด    
  

(0) ศุกร์ US industrial production (กย.)คาด -0.2% จาก -0.4% m-m, EU เงินเฟ้อ HICP (กย.) คาด -0.1% ไม่เปลี่ยนแปลง,เงินเฟ้อ มาเลเซีย คาด +3% จาก +3.1%