สภาวะตลาดวันที่ 20 ตุลาคม 2558 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,167.88-1,175.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,700 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,650 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFV15 อยู่ที่ 19,750 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,700 บาท

(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.58 น.ของวันที่ 20/10/15)

แนวโน้มวันที่ 21 ตุลาคม 2558
   

ดัชนีดอลลาร์สหรัฐพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์ ซึ่งการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ทำให้ผู้ถือสกุลเงินอื่นต้องใช้เงินมากขึ้นในการซื้อทองคำ ทั้งนี้ ดอลลาร์ได้รับแรงซื้อจากการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ซึ่ง เฟดจะจัดการประชุมนโยบายอีก 2 ครั้งในปีนี้คือในช่วงวันที่ 27-28 ตุลาคม และอีกครั้งในช่วงกลางเดือนธันวาคม ซึ่งการคาดการณ์ของตลาดสำหรับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดเปลี่ยนไปจากในช่วงที่ผ่านมาหลังการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ทั้งนี้ สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านพุ่งขึ้นสูงสุดรอบ 10 ปีในเดือนตุลาคม แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2548 เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น และอัตราเงินกู้จำนองที่ระดับต่ำ
   

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนทั่วโลกแสดงความสับสนต่อถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด และ เจ้าหน้าที่เฟดบางคนกล่าวว่า พวกเขาคาดว่าเฟดจำเป็นต้อง ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนสิ้นปีนี้ ขณะที่เจ้าหน้าเฟดแสดงถึงความระมัดระวังในเรื่องนี้ โดยนายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาซานฟรานซิสโก กล่าวในวันจันทร์ว่า การตัดสินใจเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะขึ้นอยู่กับตัวเลขเศรษฐกิจ และตัวเลขเศรษฐกิจก็อยู่ในภาวะไร้ทิศทางในช่วงที่ผ่านมา โดยมีทั้งตัวเลขที่สนับสนุนและสวนทางกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย การตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยอยู่ในภาวะก้ำกึ่งในช่วงที่ผ่านมา และจะเป็นแบบนี้ต่อไป การดีดตัวขึ้นของราคาทองคำตลาดโลกปรับตัวขึ้นเพียงเล็กน้อยทำให้ประเมินว่าการเคลื่อนตัวของราคาอาจอยู่ในกรอบเมื่อราคาขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ1,183 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากยังไม่สามารถทะลุไปได้ ต้องระมัดระวังแรงกดดันเชิงเทคนิคซึ่งจะส่งผลให้เกิดการอ่อนตัวของราคาทองคำได้อีก สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในช่วงเวลานี้ต้องเน้นไปที่การเก็งกำไรระยะสั้น
  

กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,183 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้จะทำให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงมา โดยหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับ 1,160-1,157 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาน่ากลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านอีกครั้ง แต่หากยืนไม่ได้ต้องระมัดระวังแรงขายที่ออกมาอาจทำให้ราคาย่อตัวลงสู่แนวรับถัดไป สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือรอดูบริเวณ 1,157 หรือ 1,147 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนได้อย่างมั่นคง ถือเป็นจุดซื้อเก็งกำไรระยะสั้นอีกครั้ง แต่หากราคาหลุดแนวรับ 1,147 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้ชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์

ทองคำแท่ง (96.50%)
   แนวรับ            1,157 (19,370บาท)        1,147 (19,210บาท)           1,137 (19,040บาท)
   แนวต้าน          1,183 (19,820บาท)        1,190 (19,930บาท)           1,200 (20,100บาท)

GOLD FUTURES (GFV15)
   แนวรับ            1,157 (19,460บาท)        1,147 (19,290บาท)           1,137 (19,130 บาท)
   แนวต้าน          1,183 (19,900บาท)        1,190 (20,020บาท)           1,200 (20,190บาท)