สภาวะตลาดวันที่ 21 ตุลาคม 2558 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,174.20-1,179.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,750 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,700 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFV15 อยู่ที่ 19,800 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,750 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.10 น.ของวันที่ 21/10/15)
แนวโน้มวันที่ 22 ตุลาคม 2558
ธนาคารพาณิชย์ในยูโรโซนได้ผ่อนคลายมาตรฐานการปล่อยสินเชื่อลงมากเกินคาดในไตรมาส 3 ของปีนี้ หลังจากได้รับการอัดฉีดเงินจากอีซีบี ข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้อีซีบีมีความจำเป็นน้อยลงในการปรับเพิ่มขนาดมาตรการเข้าซื้อสินทรัพย์มูลค่ารวม 1 ล้านล้านยูโร ขณะที่อีซีบีกำลังมองหาหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ของอีซีบีกำลังส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจ ข้อมูลดังกล่าวสร้างแรงซื้อเข้ามายังตลาดทองคำจนหนุนราคาทองคำขยับขึ้นตามทิศทางสกุลเงินยูโรที่กลับมาแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ตามแนวโน้มที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) อาจจะไม่ประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมก่อนสิ้นปีนี้ โดยมาตรการเข้าซื้อสินทรัพย์ หรือมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่อีซีบีใช้อยู่ในปัจจุบันคือการเข้าซื้อสินทรัพย์ที่ส่วนใหญ่เป็นพันธบัตรรัฐบาลเป็นมูลค่า 6 หมื่นล้านยูโรต่อเดือน โดยมีกำหนดจะสิ้นสุดลงในเดือนกันยายน 2016
อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำดีดตัวขึ้นไม่มากนักเพราะนักลงทุนกังวลว่าความผันผวนของสกุลเงินยูโรยังคงมีแนวโน้มแกว่งตัวในช่วงการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายของอีซีบีในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งอาจกลับมากดดันราคาทองคำอีกครั้ง ประกอบกับ นักลงทุนบ้างส่วนคาดว่า อีซีบีอาจจะไม่ผ่อนคลายนโยบายการเงินในครั้งนี้แต่อีซีบีอาจจะส่งสัญญาณบ่งชี้ว่า อีซีบีจะดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในช่วงต่อไปในปีนี้ สอดคล้องกับ นักเศรษฐศาสตร์หลายรายเชื่อว่า อีซีบีอาจจะขยายขนาดหรือยืดอายุมาตรการเข้าซื้อสินทรัพย์ในเดือนธันวาคม ประกอบกับ โพลล์รอยเตอร์ระบุว่า มีโอกาส 70% ที่อีซีบีจะยืดอายุ QE ออกไป และมีโอกาส 40% ที่อีซีบีจะเพิ่มขนาดการเข้าซื้อสินทรัพย์ในแต่ละเดือนในช่วง 6 เดือนข้างหน้า
วายแอลจีแนะนำว่า นักลงทุนสามารถหาจังหวะซื้อเล่นสั้นเมื่อราคาย่อตัวลงไปและไม่หลุดบริเวณแนวรับ 1,163-1,156 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และปิดสถานะทำกำไรหากราคาทองคำได้ดีดตัวขึ้นทดสอบแนวต้านโซน 1,183-1,190 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ไม่สามารถผ่านไปได้ ทำให้ราคามีแนวโน้มจะอ่อนตัวลง
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำยืนเหนือบริเวณแนวรับ 1,163-1,156 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ในระยะสั้นราคาทองคำยังมีโอกาสขยับขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,183-1,190 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยบริเวณนี้นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบ้างส่วนออกมาบ้าง โดยให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ซึ่งหากไม่ผ่านราคาอาจจะมีการอ่อนตัวลงอีกครั้ง โดยนักลงทุนที่รอซื้อทองคำอาจรอดูการตั้งฐานของราคาโดยประเมินแนวรับไว้ที่ 1,150-1,147 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำนักลงทุนซื้อขายในระยะสั้น ส่วนนักลงทุนระยะกลางคงต้องรอการย่อตัวและการตั้งฐานของราคาทองคำได้อย่างแข็งแกร่งจึงเข้าสะสมทองคำเพิ่มเติม
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,163 (19,520บาท) 1,156 (19,400บาท) 1,147 (19,250บาท)
แนวต้าน 1,190 (19,980บาท) 1,205 (20,220บาท) 1,215 (20,400บาท)
GOLD FUTURES (GFV15)
แนวรับ 1,163 (19,600บาท) 1,156 (19,480บาท) 1,147 (19,320บาท)
แนวต้าน 1,190 (20,050บาท) 1,205 (20,300บาท) 1,215 (20,470บาท)
ข่าวเด่น