มุมมองตลาด ตลาดหุ้นไทยปรับขึ้น 0.57% มาปิดที่ระดับ 1424 จุดเนื่องจากสภาพคล่องส่วนเกิน ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวเมื่อเทียบกับสกุลเงินในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ ปัจจุบันตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดในภูมิภาคอาเซียน ขณะที่การแข็งค่าของเงินบาท จะส่งผลให้เม็ดเงินลงทุนไหลเข้าประเทศและราคาสินทรัพย์จะปรับตัวขึ้น การวิเคราะห์ในเชิงเทคนิคประเมินทิศทางการปรับขึ้นเนื่องจาก เหตุผล: 1.อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำมากและมีสภาพคล่องค่อนข้างสูงในระบบการเงิน 2.การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED ที่ล่าช้ากลายเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นส่งผลให้กระแสเงินลงทุนไหลเข้าสู่ตลาดในภูมิภาคเอเชีย 3.นักลงทุนต่างชาติกลับเข้ามาเป็นยอดซื้อสุทธิรวมทั้งสิ้น 6.9พันล้านบาท (วันที่1-22 ต.ค. 2558) 4.ดัชนีทะลุเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้น-กลางบ่งชี้ถึงสัญญาณเปลี่ยนรอบเป็นขึ้น 5. Blue-chip stock สัญญาณหุ้นขนาดใหญ่เกิดภาพเปลี่ยนเป็นแนวโน้มทิศทางขาขึ้น 6. ค่าเงินบาทซึ่งเป็นตัวสะท้อนเรื่องของกระแสเงินลงทุนมีแนวโน้มของการกลับมาแข็งค่า ปัจจุบันเราเห็นสัญญาณเชิงบวกจากตลาดหุ้นไทยเกิดขึนจากปัจจัยทั้ง 6 ข้อนี้ทำให้เรายังคงคาดว่าดัชนีจะปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่เหนือแนวต้านเดิม 1430 จุด โดยให้แนวต้านถัดไปที่ 1450 จุด / แนวรับ 1410 จุด BLS report กลุ่มท่องเที่ยว เราคาดหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวที่กำไรหลักไตรมาส 3- 4/58 กลับมาเติบโตได้ดี อีกทั้งเราคาดกำไรหลักของกลุ่ม จะเติบโตสูงกว่า SET (เรามองว่าจะเติบโต 16% เทียบกับ 6% สำหรับ SET) อีกทั้งช่วงฤดูท่องเที่ยวในไตรมาส 4 และ ไตรมาส 1 ยังจะช่วยหนุนการดำเนินงานธุรกิจโรงแรมให้ดีขึ้นอีก หุ้น MINT เป็นหุ้นที่เราชอบมาที่สุดในกลุ่มโรงแรมเนื่องจากเราคาดรายงานกำไรหลักขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 849 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% YoY และ 59% QoQ การขยายแฟรนไชส์ธุรกิจอาหารที่แข็งแกร่ง KTB ประเด็นหลักจากการประชุมนักวิเคราะห์ ผู้บริหารคาดว่าสินเชื่อในไตรมาส 4/58 จะกลับมาโตขึ้นซึ่งสอดคล้องกับประมาณการของเราที่ 5% มุ่งเน้นสินเชื่อค้าปลีกและ SME เป็นหลัก หลังจากการสำรองค่าเผื่อหนี้สูญฯเต็มจำนวนในลูกหนี้ SSI ที่จบลงในไตรมาส 3 เราคาดว่าการตั้งสำรองจะลดลงในไตรมาส 4/58 โดยมองว่ามีอัพไซด์ต่อผลประกอบการ นอกจากนี้ราคาหุ้นซื้อขายอยู่ในเกณฑ์ที่ถูกในระดับ PBV ที่ 1.01 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 1.3 เท่า) กลยุทธ์ตลาดหุ้นไทย เราคาดการณ์สรุปผลประกอบการในไตรมาส 3/58 จะลดลง 70% YoY และ QoQ เนื่องจากผลประกอบการในกลุ่มพลังงาน PTTEP และ PTT ปรับตัวลดลง เรายังคงมองเป้าหมายดัชนีณ.สิ้นปี 2558อยู่ที่ 1412 อ้างอิงจากระดับ PER ที่ 15.6x กลุ่มที่เรามองว่าน่าจับตามองในไตรมาส 3/58 ได้แก่กลุ่มไฟแนนซ์ จากการตั้งสำรองที่ลดลง และ loan growth ,กลุ่มประกันภัย จากผลตอบแทนตราสารหนี้ที่เพิ่มขึ้น,กลุ่มท่องเที่ยว จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น,กลุ่มผู้ค้าปลีก (แนวโน้มกำไรเติบโตอย่างแข็งแกร่งใน 2H15 และกลุ่มวัสดุก่อสร้าง จากโครงการสาธารณุปโภคที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
ข่าวเด่น