สภาวะตลาดวันที่ 28 ตุลาคม 2558

ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,165.93-1,172.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,700 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 100 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,600 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFV15 อยู่ที่ 19,740 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 60 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,680 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.59 น.ของวันที่ 28/10/15)

แนวโน้มวันที่ 29 ตุลาคม 2558

รัฐบาลกลางสหรัฐอาจผิดนัดชำระหนี้ได้ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน สภาคองเกรสของสหรัฐเตรียมจะลงคะแนนเสียงต่อข้อตกลงเพดานหนี้และงบประมาณสหรัฐ ในเร็วๆนี้ เพื่อป้องกันรัฐบาลกลางสหรัฐผิดนัดชำระหนี้ โดยการปรับเพิ่มเพดานงบใช้จ่ายของรัฐบาลกลางสหรัฐเพิ่มขึ้นอีก 8 หมื่นล้านดอลลาร์ แต่ขณะนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าวุฒิสภาสหรัฐจะดำเนินการอย่างไรต่อ ความพยายามเพิ่มอำนาจในการกู้ยืมเงินของกระทรวงการคลังสหรัฐ และแนวโน้มว่าสมาชิกสภาคองเกรสของสหรัฐอาจจะผ่านมาตรการนี้ก็ต่อเมื่อใกล้ถึงเส้นตายเพดานหนี้ในวันที่ 3 พฤศจิกายน ภาวะดังกล่าวสร้างความกังวลต่อนักลงทุนทั่วโลกและกระตุ้นแรงซื้อเข้ามายังตลาดทองคำ เพราะหากรัฐบาลกลางสหรัฐผิดนัดชำระหนี้จริงเหตุการณ์ดังกล่าวก็ส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินตลาดทุนทั่วโลก ประกอบสภาผู้แทนราษฎรจะเลือกประธานคนใหม่ในวันพฤหัสบดีนี้

ทั้งนี้ ทองคำได้รับแรงหนุนเพิ่ม เมื่อข้อมูลจากสำนักงานสถิติและสำมะโนประชากรของฮ่องกงระบุว่า การนำเข้าทองคำสุทธิจากฮ่องกง เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 97.242 ตันในเดือนกันยายน จากระดับ 59.319 ตันในเดือนสิงหาคม อยู่ที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2014 ซึ่งการนำเข้าทองคำสุทธิของจีนจากฮ่องกงเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือนในเดือนกันยายน

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขประมาณการขั้นต้นของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 3/2015 ในวันพฤหัสบดีนี้ การสำรวจโดยรอยเตอร์คาดว่า จีดีพีสหรัฐอาจขยายตัว 1.6% ในไตรมาส 3/2015 ลดลงจากการขยายตัวที่ 3.7% ในไตรมาส 2/2015 ซึ่งตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในระยะนี้ทำให้เกิดความกังวลเรื่องเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งเพิ่มแรงซื้อเข้ามายังตลาดทองคำ

เบื้องต้นวายแอลจีประเมินว่าราคาทองคำมีโอกาสค่อยๆขยับขึ้น ซึ่งหากราคาทองคำสามารถผ่านระดับ 1,190 ดอลลาร์ต่อออนซ์ไปได้ ราคาทองคำจะขยับตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญในโซน 1,205 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับแนวรับยังคงอยู่ในโซนเดิมคือ 1,157-1,147 ดอลลาร์ต่อออนซ์

กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำนักลงทุนสามารถลงทุนระยะสั้นโดยเข้าซื้อหากราคาย่อตัวไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,157 หรือ 1,147 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยไม่แนะนำให้เข้าซื้อทั้งหมดบริเวณแนวรับใดแนวรับหนึ่ง ควรเหลือเงินทุนเพื่อซื้อเฉลี่ยหากราคาหลุดแนวรับแรกซึ่งราคาจะปรับตัวลงไปบริเวณแนวรับถัดไป และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นบริเวณแนวต้าน 1,180 หรือ 1,190 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้อาจเห็นการย่อตัวของราคาทองคำอีกครั้ง เบื้องต้นวายแอลจียังมองว่าการลงทุนยังเน้นการลงทุนระยะสั้น เพราะแม้ว่าราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นได้บ้าง ก็ยังคงมีแรงขายทองคำออกมาเช่นกัน

ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ            1,157 (19,390บาท)        1,147 (19,220บาท)           1,137 (19,050บาท)
แนวต้าน          1,180 (19,780บาท)        1,190 (19,950บาท)           1,205 (20,200บาท)

         

GOLD FUTURES (GFV15)
แนวรับ            1,157 (19,500บาท)        1,147 (19,330บาท)           1,137 (19,160บาท)
แนวต้าน          1,180 (19,890บาท)        1,190 (20,050บาท)           1,205 (20,310บาท)