ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
วายแอลจี แนะนำลงทุนทองวันนี้ "ชะลอการซื้อ หากราคาทองหลุด 1,133 ดอลลาร์ต่อออนซ์"


คำแนะนำ
   ชะลอการซื้อหากราคาหลุด $1,133 ทั้งนี้ควรพิจารณาการแกว่งตัวของค่าเงินบาทประกอบการตัดสินใจลงทุน


ทองคำ
  แนวรับ 1,133 1,120 1,110
  แนวต้าน 1,150 1,159 1,165

ปัจจัยพื้นฐาน
   

ราคาทองคำรอบสัปดาห์ก่อนอ่อนตัวลง 22.05 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากตลาดรับรู้ถึงผลการประชุมของเอฟโอเอมซี ซึ่งมีสาระสาคัญโดยคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในกรอบเท่าเดิม และยังตัดประเด็นความกังวลเกี่ยวกับความปั่นป่วนของเศรษฐกิจโลกที่ส่งผลต่อสหรัฐฯออกไป สร้างกระแสคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) อาจตัดสินใจปรับข้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคาทาจุดสูงสุดที่ 1,182.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนที่จะเผชิญแรงขายลงมาในโซน 1,150 ดอลลาร์ต่อออนซ์ทันทีในช่วงการประชุม ดังนั้นจะเห็นว่าประเด็นที่เกี่ยวข้องกับอัตราดอกเบี้ยของเฟด มีนัยสำคัญต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ โดยในสัปดาห์นี้จะมีการเปิดเผยตัวเลขสาคัญในตลาดแรงงาน ซึ่งจำเป็นต้องติดตามอย่างใกล้ชิด

ปัจจัยเทคนิค
  

ราคาทองคำยังคงอ่อตัวลงเป็นสัปดาห์ที่สอง โดยแรงขายยังเกิดขึ้น เบื้องต้นประเมินแนวรับที่บริเวณ 1,133 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากรับไม่อยู่จะมีแนวรับสำคัญที่บริเวณ 1,120 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่แนวต้านประเมินที่ 1,150 และ 1,159 ดอลลาร์ต่อออนซ์

กลยุทธ์การลงทุน
  

การเข้าซื้ออาจต้องชะลอออกไปหากราคาหลุด 1,133 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่การเปิดสถานะขายอาจรอการดีดตัวขึ้นไปในโซน 1,159 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ข่าวสารประกอบการลงทุน
   

(+)ประธานเฟดริชมอนด์ชี้กรรมการเฟดคนอื่นตัดสินใจผิดพลาดในการคงดบ.สัปดาห์นี้ นายเจฟฟรี แลคเกอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาริชมอนด์ กล่าวว่า เขาเชื่อว่ากรรมการเฟดคนอื่นๆได้ตัดสินใจผิดพลาดในการประชุมกาหนดนโยบายการเงินในสัปดาห์นี้ด้วยการคงอัตราดอกเบี้ย "เรามีความจาเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เมื่อพิจารณาถึงสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน และแนวโน้มในระยะกลาง" เขากล่าว "ผมเชื่อว่าขณะนี้ถึงเวลาแล้วที่เราต้องปรับนโยบายอัตราดอกเบี้ยของเราให้สอดคล้องกับความคืบหน้าในช่วงที่ผ่านมาของภาวะเศรษฐกิจ และการขยายตัวที่กาลังดาเนินอยู่"
    

(-)จีนเผยดัชนี PMI นอกภาคการผลิตเดือนต.ค.ลดลงแตะ 53.1 สหพันธ์พลาธิการและการจัดซื้อของจีน (CFLP) และสานักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) นอกภาคการผลิตจีนในเดือนต.ค. แตะที่ 53.1 ลดลงจากเดือนก.ย. 0.3% เนื่องจากธุรกิจค้าปลีก ตลาดทุน และบริการซ่อมแซมขยายตัวในจังหวะช้าลง ด้วยเหตุที่เดือนต.ค.มีช่วงหยุดยาววันชาติหนึ่งสัปดาห์ ดัชนีที่สูงกว่า 50 แสดงให้เห็นว่ากิจกรรมนอกภาคการผลิตของจีนขยายตัวจากเดือนก่อนหน้า และหากดัชนีปรับตัวต่ากว่าระดับ 50 จุดก็จะบ่งชี้ถึงภาวะหดตัว สาหรับดัชนีย่อยการบริการเดือนต.ค. ปรับตัวลงสู่ระดับ 52.3 จากระดับ 53 ในเดือนก่อนหน้า
   

(+/-)จีนเผยดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนต.ค.ทรงตัวแตะ 49.8 สหพันธ์พลาธิการและการจัดซื้อของจีน (CFLP) และสานักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตจีนในเดือนต.ค. แตะที่ระดับ 49.8 ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับของเดือนก.ย. เป็นการสะท้อนว่า ภาคการผลิตของจีนยังคงปรับตัวดีขึ้นแต่ความต้องการยังคงอ่อนแรง ดัชนีที่สูงกว่า 50 แสดงให้เห็นว่าภาคการผลิตการขยายตัวจากเดือนก่อนหน้า และหากดัชนีปรับตัวต่ากว่าระดับ 50 จุดก็จะบ่งชี้ถึงภาวะหดตัว สานักข่าวซินหัวรายงาน
    

(+/-)กสิกรไทยคาดบาทสัปดาห์ 35.40-35.70 จับตาตัวเลขศก.สหรัฐ-ผลประชุมกนง. ธนาคารกสิกรไทย ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสาหรับสัปดาห์ (2-6 พ.ย.) ที่ระดับ 35.40-35.70 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ กระแสการคาดการณ์เกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยและข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อาทิ ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการ ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชน การจ้างงานนอกภาคเกษตร และอัตราการว่างงานในเดือนต.ค. ยอดสั่งซื้อภาคโรงงาน รายจ่ายด้านการก่อสร้าง ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนก.ย. นอกจากนี้ นักลงทุนอาจติดตามดัชนี PMI เดือนต.ค.ของหลายๆ ประเทศ ขณะที่ตลาดในประเทศอาจมีจุดสนใจเพิ่มเติมที่ผลการประชุมนโยบายการเงิน(กนง.) ของไทยในช่วงกลางสัปดาห์ด้วยเช่นกัน
ที่


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 02 พ.ย. 2558 เวลา : 11:02:38

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 3:25 am