ตลาดหุ้นวานนี้:
  

ตลาดหุ้นไทยวันศุกร์ เกิดการฟื้นตัวลักษณะ Technical rebound แต่ยังไม่ผ่าน 1,400 จุด โดยกลุ่มที่ปรับฐานลงแรงในวันก่อนหน้า อย่างกลุ่มธนาคาร กลุ่มอสังหาฯ และ ICT อีกทั้งค่าเงินบาทแข็งค่าเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ค่อนข้างเด่น ปิด ณ สิ้นวันที่ 1,394.94 จุด บวก 4.90 จุด มูลค่าการซื้อขาย 38,825 ล้านบาท
  

ทั้งนี้ต่างชาติกลับมาชะลอการขายหุ้นไทย แม้คงขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 4 อีก 2,254 ล้านบาท แต่กลับมา Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ 8,207 สัญญา และกลับมาขายสุทธิตลาดตราสารหนี้ 3,243 ล้านบาท

ปัจจัยสำคัญวันนี้
  

ตัวเลขเศรษฐกิจเดือนก.ย.ของไทย เห็นสัญญาณการฟื้นตัวอย่างอ่อนๆ ดัชนีความเชื่อมั่นภาคเอกชนเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 2

สภาคองเกรสสหรัฐฯ ผ่านแผนขยายเพดานก่อหนี้สาธารณะก่อนเส้นตายวันที่ 3 พ.ย.
  

ตัวเลขเศรษฐกิจจีน ออกมาเป็นกลางใกล้เคียงคาด
  

ประธาน ECB ยืนยันเพิ่มมาตรการกระตุ้นในการประชุมเดือนธ.ค.

มุมมองต่อตลาด
  

เราคงมุมมองการลงทุนเป็น “กลาง” วันที่ 3 พร้อมประเมินกรอบแกว่ง 1,380-1,400 จุด มูลค่าการซื้อายกลับมาอยู่ในระดับ 3.5-4.0 หมื่นล้านบาท/วัน เพราะปัจจัยแวดล้อมทั้งในและต่างประเทศไม่ชัดเจน แม้ว่า ประธาน ECB ส่งสัญญาณพร้อมขยายวงเงิน QE จากปัจจุบันที่ 6.0 หมื่นล้านยูโร/เดือน เป็นบวกต่อตลาดหุ้นยุโรป และสำหรับตลาดหุ้นในเอเชีย อาจเผชิญกับแรงกดดันของตัวเลข PMI ภาคการผลิตและบริการของจีน ที่ยังไม่ฟื้นตัว
  

ขณะที่ปัจจัยสำคัญภายในประเทศ คือการพิจารณาและอนุมัติแผนการลงทุนขนาดใหญ่ของทีมเศรษฐกิจไทย ได้ถูกชะลอตัวออกไปในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ดังนั้น นักลงทุนกลับมาระมัดระวังต่อการลงทุนในช่วงสั้นนี้อีกครั้ง แม้ว่าวันพรุ่งนี้ การประชุม ครม.อาจมีการพิจารณาแผนการลงทุน PPP จำนวน 5 โครงการ เพื่อให้เกิดการลงทุนในปี 2559 ก็ตาม เชื่อว่านักลงทุนต้องการเห็นความเป็นรูปธรรมที่
มากขึ้น
  

ด้านภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศ เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวอ่อนๆ จากภาคเอกชน หลังมีการปรับครม. และทีมเศรษฐกิจ พร้อมเร่งการทำงานอย่างต่อเนื่องในช่วง 3-4 สัปดาห์แรกหลังรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ เรียกความเชื่อมั่นได้ในระดับหนึ่ง แต่ภาคเอกชนยังคงต้องการเห็นภาพที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น เพราะ ณ ปัจจุบัน เริ่มโครงการกองทุนหมู่บ้าน/ เงินช่วยเหลือ SMEs / การลดค่าธรรมเนียมภาคอสังหาฯ / ปรับโครงสร้างภาษี เอื้อต่อภาคการลงทุน เท่านั้น แต่การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ยังไม่เกิดรูปธรรมได้เร็วเหมือนที่นักลงทุนต้องการ กลายเป็นจุดที่ทำให้มูลค่าการซื้อขายกลับมาชะลอตัวอีกครั้ง

กลยุทธ์การลงทุน
  

ดังนั้น เราแนะนำ “นักลงทุนที่ซื้อเก็งกำไรระยะสั้นอาจพิจารณาขายทำกำไรเมื่อเกิด Technical Rebound” ทั้งนี้กลยุทธ์รวมกลับมาใช้ในลักษณะ Trading ระยะสั้น คือ ขึ้นแรงขาย ลงแรงซื้อ เหมือนช่วงก่อนอีกครั้ง หลังภาพรวมการลงทุนกลับมาไม่ชัดเจนอีกครั้ง


Top Pick in 4Q15: BMCL / ITD/ TMB/ TPIPL
HOLD: ITD / TPIPL/ ADVANC/ WHA/ IFEC/ INTUCH/ KTB
Speculative Buy: ADVANC/ IRPC