คำแนะนำ
  

เสี่ยงซื้อในบริเวณ $1,077(ตัดขาดทุนหากหลุด $1,069) ทั้งนี้ควรพิจารณาการแกว่งตัวของค่าเงินบาทประกอบการตัดสินใจลงทุน

ทองคำ
  

แนวรับ 1,087 1,077 1,069
แนวต้าน 1,110 1,125 1,138

ปัจจัยพื้นฐาน
  

ราคาทองคำเริ่มปรับตัวขึ้น โดยราคาทองคาสปอตสหรัฐฯวานนี้ปรับตัวขึ้น 3.45 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ท่ามกลางปัจจัยพื้นฐานที่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมากนัก ทาให้การดีดตัวขึ้นยังคงต้องติดตามว่าจะไปได้ไกลเท่าใด ซึ่งตลาดยังคงจับตาประเด็นที่เกี่ยวข้องกันกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) โดยวานนี้ประธานเฟดสาขาบอสตันยังเปิดเผยความคิดเห็นว่า ในช่วงเดือนธันวาคมเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และจะเห็นได้ว่าในช่วงหลังๆมานี้เสียงสนับสนุนเกี่ยวกับประเด็นนี้เพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก ทาให้การแกว่งตัวของราคาอทองคาจะอยู่ต่อเนื่องไป ขณะที่กองทุน SPDR ยังคงเดินหน้าลดการถือครองทองคาลงถึง 2.98 ตัน มาอยู่ที่ 666.11 ตันวานนี้ ยังสะท้อนความกังวลต่อตลาดทองคาได้เป็นอย่างดี

ปัจจัยเทคนิค
  

ยังเน้นเก็งกำไรตามกรอบราคา โดยหากหลุด 1,087 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจต้องชะลอการเข้าซื้อมายังบริเวณ 1,077 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่การเปิดสถานะขายอาพิจารณาบริเวณ 1,110 ดอลลาร์ต่อออนซ์(ตัดขาดทุนหากยืนเหนือบริวเณ 1,110 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้)

ข่าวสารประกอบการลงทุน
  

(-)ปธ.เฟดบอสตันชี้เดือนธ.ค.เป็นช่วงเวลาเหมาะสมในการเริ่มปรับขึ้นดอกเบี้ย นายเอริค โรเซนเกรน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาบอสตัน กล่าวว่ามีความเป็นไปได้มากขึ้นที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในเดือนธ.ค. เมื่อพิจารณาจากความคืบหน้าทางเศรษฐกิจ นายโรเซนเกรนกล่าวว่า เดือนธ.ค.อาจเป็นช่วงเวลาที่มีความเหมาะสมสาหรับการเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หากแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเป็นไปตามที่คาด ทั้งนี้ ประธานเฟดบอสตันกล่าวว่า ข้อมูลเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมาเป็นไปในเชิงบวก ซึ่งสะท้อนว่าเศรษฐกิจสหรัฐปรับตัวดีขึ้น พร้อมกับแสดงความมั่นใจว่าสหรัฐจะบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2% และคาดว่าจะมีการจ้างงานอย่างเต็มที่ ตราบใดที่เศรษฐกิจมีการเติบโตสูงกว่าศักยภาพ
    

(+/-)จีนเผยดัชนี PPI เดือนต.ค.หดตัว 5.9% เทียบรายปี สานักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของจีน ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อระดับค้าส่ง ปรับตัวลง 5.9% เมื่อเทียบรายปี ในเดือนต.ค. ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากในเดือนก.ย.ที่หดตัวลง 5.9% เช่นกัน เทียบรายปี
   

(+/-)จีนเผยดัชนี CPI เดือนต.ค.ขยายตัวชะลอลงแตะ 1.3% เทียบรายปี สานักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีนในเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 1.3% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอลงจากอัตราการขยายตัว 1.6% ในเดือนก.ย. และต่ากว่าที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้ว่าจะปรับขึ้น 1.5%
  

(+/-)OECD หั่นคาดการณ์เศรษฐกิจโลกปีหน้าเหลือ 3.3% เหตุการค้าซบ,จีนชะลอตัว องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ประกาศปรับลดแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2016 ซึ่งสะท้อนถึงภาวะการค้าที่ซบเซา ท่ามกลางการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ทั้งนี้ OECD คาดว่าเศรษฐกิจโลกจะเติบโต 3.3% ในปีหน้า ลดลงจาก 3.6% ที่คาดการณ์ในเดือนก.ย. และจะขยายตัว 3.6% ในปี 2017 ขณะที่กลุ่มประเทศในตลาดเกิดใหม่อ่อนแอลงต่อไป OECD ระบุว่า จีนจะขยายตัว 6.5% ในปีหน้า และ 6.2% ในปี 2017 โดยมีปัจจัยลบจากการลงทุนในภาคการผลิตที่ชะลอตัว OECD คาดว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะยังคงขยายตัว 2.5% ในปีหน้า โดยได้แรงหนุนจากการบริโภคในภาคครัวเรือน และการลงทุนในภาคเอกชน
    

(+/-)โอเปกคาดตลาดน้ามันมีความสมดุลมากขึ้นในปีหน้า ขณะอุปสงค์เพิ่มมากขึ้น นายอับดุลลาห์ อัล-บาดรี เลขาธิการกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ามัน (โอเปก) กล่าวว่า เขาคาดว่าตลาดน้ามันจะมีความสมดุลมากขึ้นในปีหน้า ขณะที่อุปสงค์เพิ่มมากขึ้น "เราคาดว่าอุปสงค์น้ามันโลกจะยังคงมีการขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยกลุ่มประเทศนอกโอเปกจะผลิตน้ามันน้อยลง ขณะที่อุปสงค์ของน้ามันโอเปกจะเพิ่มมากขึ้น" เขากล่าว ทั้งนี้ โอเปกจะจัดการประชุมในวันที่ 4 ธ.ค.เพื่อหารือถึงนโยบายการผลิตน้ามัน หลังจากที่เมื่อปีที่แล้ว โอเปกตัดสินใจคงกาลังการผลิต แม้ราคาน้ามันดิ่งลง ท่ามกลางการเพิ่มการผลิตจากสหรัฐ ทางด้านสานักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) รายงานว่า การขยายตัวของอุปสงค์น้ามันโลกจะแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 ปีในปีนี้ ที่ระดับ 1.8 ล้านบาร์เรล/วัน แต่คาดว่าจะชะลอตัวลงในปีหน้า
ที่มา: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์, ryt9 และBisnews