ตลาดหุ้นโลกปิดเมื่อคืนนี้ (9 พ.ย.58)ทรุดตัวลงแรง โดยตลาดหุ้นสหรัฐ ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,730.48 จุด ลดลง 179.85 จุด หรือ -1.00% , ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,095.30 จุด ลดลง 51.82 จุด หรือ -1.01% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,078.58 จุด ลดลง 20.62 จุด หรือ -0.98%
ส่วนตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1.2% ปิดที่ 375.88 จุด, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปิดที่ 4,911.17 จุด ลดลง 72.98 จุด หรือ -1.46% , ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมัน ปิดที่ 10,815.45 จุด ลดลง 172.58 จุด หรือ -1.57% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดที่ 6,295.16 จุด ลดลง 58.67 จุด หรือ -0.92%
โดยนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก หลังองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ปรับลดแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2559 สะท้อนถึงภาวะการค้าที่ซบเซา ท่ามกลางการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน
ทั้งนี้ OECD คาดว่าเศรษฐกิจโลกจะเติบโต 3.3% ในปีหน้า ลดลงจาก 3.6% ที่คาดการณ์ในเดือนก.ย. และจะขยายตัว 3.6% ในปี 2560 ขณะที่กลุ่มประเทศในตลาดเกิดใหม่อ่อนแอลงต่อไป นอกจากนี้ OECD คาดว่าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัว 6.5% ในปีหน้า และ 6.2% ในปี 2560 โดยมีปัจจัยลบจากการลงทุนในภาคการผลิตที่ชะลอตัว
ส่วนเศรษฐกิจสหรัฐนั้น OECD คาดว่าจะยังคงขยายตัว 2.5% ในปีหน้า โดยได้แรงหนุนจากการบริโภคในภาคครัวเรือน และการลงทุนในภาคเอกชน อย่างไรก็ตาม OECD เตือนว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดที่อาจเกิดขึ้นในเดือนธ.ค. อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในตลาดเกิดใหม่
นอกจากนี้ กระแสการคาดการณ์เรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ยังคงสร้างแรงกดดันต่อตลาด โดยการคาดการณ์ดังกล่าวมีน้ำหนักมากขึ้นหลังสหรัฐเปิดเผยว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 271,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2014 ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 5.0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 ปีครึ่ง
รวมทั้งตลาดยังได้รับปัจจัยลบ จากข้อมูลการค้าที่อ่อนแรงลงของจีน โดยสำนักงานศุลกากรจีนระบุว่า มูลค่าการค้าระหว่างประเทศเดือนต.ค.ของจีน ร่วงลง 9% เมื่อเทียบรายปี แตะ 2.06 ล้านล้านหยวน (3.2462 แสนล้านดอลลาร์) ซึ่งย่ำแย่กว่าตัวเลขเดือนก.ย.ที่หดตัวลง 8.8%ขณะที่ยอดส่งออกของจีนหดตัวลง 3.6% แตะ 1.23 ล้านล้านหยวนในเดือนต.ค. และยอดนำเข้าเดือนต.ค.ร่วงลง 16% สู่ระดับ 8.3314 แสนล้านหยวน ส่งผลให้ยอดเกินดุลการค้าพุ่งขึ้น 40.2% อยู่ที่ 3.9322 แสนล้านหยวน
ข่าวเด่น