คำแนะนำ
   

เสี่ยงซื้อในบริเวณ $1,077(ตัดขาดทุนหากหลุด $1,069) ทั้งนี้ควรพิจารณาการแกว่งตัวของค่าเงินบาทประกอบการตัดสินใจลงทุน
ทองคำ
   แนวรับ 1,085 1,077 1,069
   แนวต้าน 1,110 1,125 1,138

ปัจจัยพื้นฐาน
   

ราคาทองคำสปอตสหรัฐฯวานนี้อ่อนตัวลง 2.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ท่ามกลางการแข็งค่าของเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯจากกระแสการคาดการณ์ถึงประเด็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ซึ่งนามาสู่แรงขายอย่างต่อเนื่องในตลาดทองคาจนทาให้ราคาเข้าใกล้จุดต่าสุดเดิมในบริเวณ 1,077 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เบื้องต้นประเด็นนี้จะส่งผลต่อเนื่องไปจนกว่าจะมีความชัดเจน และอาจต้องรอถึงกลางเดือนหน้าซึ่งจะมีการประชุมของเอฟโอเอมซี โดยเป็นรอบการประชุมที่คาดการณ์กันว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ดังนั้นการลงทุนในตลาดทองคำตั้งแต่นี้ต่อไปอาจต้องพิจารณาประเด็นดังกล่าวมาเป็นอันดับแรก ขณะที่กองทุน SPDR ยังคงเดินหน้าลดการถือครองทองคาต่อเนื่องลงอีก 2.68 ตัน แสดงถึงความไม่น่าสนใจในตลาดทองคาช่วงนี้

ปัจจัยเทคนิค
  

ราคาทองคำยังคงทรงตัวเหนือ 1,080 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เบื้องต้นหากหลุด 1,085 ดอลลาร์ต่อออนซ์ลงมาจะมีแนวรับถัดไปที่ 1,077-1,069 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่แนวต้านยังคงไว้ในบริเวณ 1,110 ดอลลาร์ต่อออนซ์

กลยุทธ์การลงทุน
  

ยังเน้นเก็งกำไรตามกรอบราคา โดยหากหลุด 1,087 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจต้องชะลอการเข้าซื้อมายังบริเวณ 1,077 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่การเปิดสถานะขายอาพิจารณาบริเวณ 1,110 ดอลลาร์ต่อออนซ์(ตัดขาดทุนหากยืนเหนือบริวเณ 1,110 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้)

ข่าวสารประกอบการลงทุน
  

(-)ดอลล์แข็งค่าเทียบยูโร,ฟรังก์สวิส ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นในวันอังคารสู่ระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือนครึ่งเมื่อเทียบกับยูโรและแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือนเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์เกี่ยวกับนโยบายอัตราดอกเบี้ยที่สวนทางกันระหว่างธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) สต็อกสินค้าคงคลังที่เพิ่มขึ้นเกินคาดของสหรัฐในเดือนก.ย.บ่งชี้ว่าตัวเลขประมาณการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจในไตรมาส 3 ของรัฐบาลสหรัฐอาจเพิ่มขึ้น เศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้นสนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ในการประชุมวันที่ 15-16 ธ.ค. ขณะที่อีซีบีมีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลงจากระดับ -0.2% ในปัจจุบัน ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินบวก 0.4% สู่ 99.371 ดอลลาร์/ยูโรบวก 0.3% สู่1.0711ดอลลาร์เมื่อเทียบกับยูโร
    

(-)สหรัฐเผยสต็อกสินค้าภาคค้าส่งเพิ่มขึ้นมากที่สุดรอบ 3 เดือนในก.ย. กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกสินค้าภาคค้าส่งของสหรัฐพุ่งขึ้นมากที่สุดในรอบ 3 เดือน โดยเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายเดือน โดยได้รับแรงหนุนจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น สต็อกสินค้าภาคค้าส่งทะยานขึ้น 0.7% ในเดือนมิ.ย. ขณะที่เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนส.ค. นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าสต็อกสินค้าภาคค้าส่งจะทรงตัวในเดือนก.ย. ส่วนยอดค้าส่งเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนก.ย. โดยเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 5 เดือน หลังจากร่วงลง 0.9% ในเดือนส.ค.
    

(+)รายงานของ IEA หนุนน้ามันดิบปรับขึ้น ราคาน้ามันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปรับขึ้นในวันอังคาร หลังจากสานักงานพลังงานสากล (IEA) ตั้งข้อสังเกตว่า การลงทุนในน้ามันดิ่งลงอย่างรุนแรง อย่างไรก็ดี ราคาน้ามันปรับขึ้นไม่มากนัก เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลกับภาวะอุปทานน้ามันล้นตลาด และนักลงทุนรอดูตัวเลขสต็อกน้ามันในคลัง ทั้งนี้ ราคาน้ามันดิบส่งมอบเดือนธ.ค.ปรับขึ้น 34 เซนต์ มาปิดตลาดที่ 44.21 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 43.57-44.76 ดอลลาร์ ราคาน้ามันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค.ที่ตลาดกรุงลอนดอนปรับขึ้น 25เซนต์ สู่ 47.44 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 46.96-47.86 ดอลลาร์ IEA ประเมินว่า การลงทุนในน้ามันอาจดิ่งลงกว่า 20 % ในปีนี้ และแนวโน้มนี้จะดาเนินต่อไปในปี 2016
    

(+/-)สหรัฐเผยราคานาเข้าลดเกินคาดในเดือนต.ค. กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยราคานาเข้าลดลงเกินคาด 0.5% และราคาส่งออกลดลง 0.2% ในเดือนต.ค.หลังจากลดลง 0.6% ทั้งราคานาเข้าและส่งออกในเดือนก.ย. นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสารวจโดยรอยเตอร์คาดไว้ว่า ราคานาเข้าอาจลดลง 0.1%และราคาส่งออกอาจลดลง 0.2% ในเดือนต.ค.