- ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับตัวลดลง และนักวิเคราะห์ยังคาดว่าจะปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากตลาดกลับมากังวลต่อปริมาณอุปทานของน้ำมันดิบที่จะล้นตลาด ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ จะปรับตัวสูงขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 8 ติดต่อกัน โดย Reuters ได้รายงานตัวเลขคาดการณ์น้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สิ้นสุด ณ วันที่ 13 พ.ย. 58 ว่าจะมีปริมาณเพิ่มขึ้น 1.9 ล้านบาร์เรล จะทำให้มีปริมาณน้ำมันดิบคงคลังอยู่ที่ระดับสูงกว่า 490 ล้านบาร์เรล ซึ่งมีค่าใกล้เคียงกับปริมาณที่สูงที่สุดในเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา
+ แต่อย่างไรก็ตาม Reuters ได้คาดการณ์ปริมาณน้ำมันสำเร็จรูปคงคลังสหรัฐฯ ว่าจะปรับตัวลดลง โดยปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง 0.4 ล้านบาร์เรล ขณะที่ปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสหรัฐฯ จะปรับตัวลดลง 0.5 ล้านบาร์เรล
-/+ สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานของสหรัฐฯ (API) รายงานตัวเลขปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ รายสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 13 พ.ย. 58 ปรับตัวลดลง 482,000 บาร์เรล ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.9 ล้านบาร์เรล เนื่องจากมีการนำเข้าน้ำมันดิบลดลงและมีอัตราการกลั่นน้ำมันมากขึ้น ขณะที่ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ณ จุดส่งมอบน้ำมันดิบคุชชิ่ง โอกลาโฮมา ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรล แต่อย่างไรก็ตามปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังปรับตัวลดลง 1.5 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 0.5 ล้านบาร์เรล
+ ดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐฯ เดือน ต.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.9% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบกับเดือน ก.ย. ซึ่งตรงกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ หลังจากที่ดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงเป็นเวลา 2 เดือนติดต่อกันที่ผ่านมา
+ ฝรั่งเศสได้ทำการตอบโต้กลับโดยถล่มฐานที่มั่นของกองกำลังรัฐอิสลาม (IS) ในเมืองรัคคา ทางตอนเหนือของประเทศซีเรีย หลังจากเกิดเหตุวินาศกรรมในกรุงปารีสเมื่อวันที่ 13 พ.ย. ที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์มองว่าเหตุการณ์โจมตีกลับในครั้งนี้ ไม่ได้ส่งผลต่อราคาน้ำมันดิบมากนัก เนื่องจากซีเรียไม่ใช่ผู้ผลิตและส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของโลก
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับลดลงสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากปริมาณอุปทานในตลาดที่มากขึ้นโดยเฉพาะจากอินเดีย ประกอบกับการกลับมาดำเนินการกลั่นอีกครั้งของโรงกลั่นในเกาหลี หลังจากที่ปิดซ่อมบำรุงไปเมื่อวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ ราคาน้ำมันดีเซลได้รับแรงหนุนจากปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังที่สิงคโปร์มีปริมาณที่ลดลง ประกอบกับมีอุปสงค์ที่แข็งแกร่งจากทางด้านเวียดนาม และอุปสงค์ที่เข้ามาจากเพิ่มศรีลังกา
ทิศทางราคาน้ำมันดิบ
ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสสัปดาห์นี้เคลื่อนไหวที่กรอบ 40-45 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 43-48 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
ผู้ผลิตในกลุ่มโอเปกยังคงปริมาณการผลิตในระดับสูงเพื่อรักษาส่วนแบ่งการตลาดและเพิ่มการส่งออกไปยังประเทศในกลุ่มตะวันตกมากขึ้นหลังจากที่มีการสูญเสียส่วนแบ่งการตลาดในเอเชียให้กับรัสเซีย โดยปัจจัยดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าผู้ผลิตในกลุ่มโอเปกยังต้องการรักษาส่วนแบ่งการตลาดและไม่มีทีท่าจะปรับลดการผลิตลงแต่อย่างใด สะท้อนให้เห็นว่าภาวะอุปทานน้ำมันดิบส่วนเกินจะยังคงไม่คลี่คลายในเร็วนี้
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคงมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง โดยล่าสุดแข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) มีการส่งสัญญาณว่าจะมีการพิจารณาการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเดือน ธ.ค. นี้ เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีการฟื้นตัวมากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดแรงงาน ซึ่งล่าสุดอัตราการว่างงานลดลงแตะระดับร้อยละ 5.5
จับตาปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะยังคงเพิ่มขึ้นต่อ หลังมีการปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องมาแล้วเป็นเวลากว่า 7 สัปดาห์ติดต่อกัน สาเหตุเนื่องจากโรงกลั่นน้ำมันดิบมีการปิดซ่อมบำรุงและปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังส่วนต่างราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและราคาน้ำมันดิบเบรนท์ที่แคบลง ทำให้มีการหันไปนำเข้าน้ำมันดิบจากต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น ซึ่งผลของสต๊อกน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องส่งผลกดดันต่อราคาน้ำมันดิบให้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างจำกัด
ข่าวเด่น