ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืนนี้ (19 พ.ย.58) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,732.75 จุด ลดลง 4.41 จุด หรือ -0.02% ,ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,073.64 จุด ลดลง 1.56 จุด หรือ -0.03% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,081.24 จุด ลดลง 2.34 จุด หรือ -0.11% เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากการปรับลดลงของหุ้นกลุ่มธุรกิจสุขภาพ หลังมีรายงานบริษัทยูไนเต็ดเฮลธ์ กรุ๊ป วางแผนถอนตัวออกจากโครงการ 'โอบามาแคร์' นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันดิบลดลง
   
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลงแต่ไม่มาก เนื่องจากนักลงทุนขานรับข้อมูลแรงงานที่สดใสของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้ว ลดลง 5,000 ราย สู่ระดับ 271,000 ราย โดยตัวเลขดังกล่าวต่ำกว่าระดับ 300,000 รายเป็นสัปดาห์ที่ 37 ติดต่อกัน และยังคงอยู่ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 40 ปี ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่ง
   

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนในระหว่างวันหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย โดยรายงานการประชุมประจำวันที่ 27-28 ต.ค.ของเฟดระบุว่า  เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายส่วนใหญ่ของเฟดมีความเห็นที่สอดคล้องกันว่าเฟดควรจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า แต่จะเป็นการปรับขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป