สภาวะตลาดวันที่ 24 พฤศจิกายน 2558 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,069.50-1,074.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,250 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,250 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ15 อยู่ที่ 18,320 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 30 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,290 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.11 น.ของวันที่ 24/11/15)
แนวโน้มวันที่ 25 พฤศจิกายน 2558
ถ้อยแถลงของนายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขา ซานฟรานซิสโก ที่บ่งชี้ว่าเฟดมีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 15-16 ธันวาคม โดยระบุว่ามีเหตุผลที่แข็งแกร่งที่สนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยใดที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐไม่อยู่ในระดับที่น่าผิดหวัง ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวขึ้นมากถึงแตะระดับ 100.00 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน ใกล้ระดับสูงสุดของปีนี้ที่ 100.390 ขณะที่ โปรแกรม FedWatch ของ CME กรุ๊ปบ่งชี้ว่า มีโอกาสเกือบ 75% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า ประเด็นดังกล่าวกดดันราคาทองคำให้อ่อนตัวลงเข้าใกล้จุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2010 แต่อย่างไรก็ตามการอ่อนตัวลงของราคาทองคำยังไม่ทำระดับต่ำสุดครั้งใหม่ต่ำกว่าโซนที่ 1,064 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดของปีนี้ที่ทำไว้ในวันพุธที่ 18 พฤศจิกายน เนื่องจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ระบุย้ำอีกครั้งว่า เฟดจะใช้ความระมัดระวังในเรื่องจังหวะความเร็วในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เมื่อการแลกเปลี่ยนความเห็นกับนายราล์ฟ เนเดอร์ นักเคลื่อนไหวเพื่อผู้บริโภคชาวสหรัฐ หลังจากก่อนหน้านี้นายเนเดอร์ได้ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงนางเยลเลนในวันที่ 30 ตุลาคม โดยเขาขอให้ นางเยลเลนคำนึงถึง "ผู้ฝากเงินที่ต่ำต้อย"
ทั้งนี้ ตลาดทองคำได้แรงหนุนเพิ่มจากตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ โดยมีรายงานระบุว่าภาคการผลิตของสหรัฐเติบโตในอัตราที่เชื่องช้าที่สุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2013 และสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านมือสองลดลงเกินคาด 3.4% สู่ 5.36 ล้านยูนิตในเดือนตุลาคม เบื้องต้นวายแอลจีประเมินว่า ต้องรอดูการเคลื่อนไหวของราคาทองคำว่าจะสามารถยืนในบริเวณ 1,064 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่งหรือไม่ หากสามารถยืนได้ประเมินว่าราคาทองคำจะขยับขึ้นชนแนวต้านในโซน 1,085 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในขณะที่หากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวรับ 1,064 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนต้องระมัดระวังการอ่อนตัวของราคาทองคำ
กลยุทธ์การลงทุน ราคาทองคำพยายามสร้างรูปแบบการเคลื่อนไหวลักษณะ Sideway Down โดยนักลงทุนสามารถซื้อและขายทำกำไรในกรอบราคา สำหรับนักลงทุนที่มีทองคำในมือ แนะนำให้ทำกำไรหากราคาดีดตัวขึ้นและไม่ผ่านแนวต้าน 1,085 หรือ 1,098 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยหากราคามีการย่อตัวลงมาบริเวณแนวรับ 1,064 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยรักษาระดับไว้ได้ก็เป็นจุดที่เข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้นจากการดีดตัวของราคา ซึ่งวายแอลจีมีมุมมองว่าราคาทองคำยังอยู่ในช่วงปรับฐานของราคาแนะนำให้นักลงทุนเล่นในกรอบและให้รอจังหวะเปิดสถานะซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาบริเวณแนวรับ และขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นไปบริเวณแนวต้าน
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,064 (18,010บาท) 1,050 (17,770บาท) 1,040 (17,600บาท)
แนวต้าน 1,085 (18,370บาท) 1,098 (18,590บาท) 1,113 (18,850บาท)
GOLD FUTURES (GFZ15)
แนวรับ 1,064 (18,150บาท) 1,050 (17,910บาท) 1,040 (17,740บาท)
แนวต้าน 1,085 (18,510บาท) 1,098 (18,730บาท) 1,113 (18,990บาท)
ข่าวเด่น