ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ แม้ว่าในช่วงเช้า SET INDEX จะมีความพยายามไต่ระดับขึ้นทดสอบด่าน 1,400 จุด ก็ตาม แต่ก็ยังไม่สามารถทะลุผ่านได้ อีกทั้งมีประเด็นความกังวลต่อแหล่งเงินทุนของ TRUE ส่งผลให้กลุ่ม ICT ปรับตัวลง 1.88% และกดดันให้ SET INDEX ปรับฐานลงอย่างรวดเร็ว ปิด ณ สิ้นวันที่ 1,384.92 จุด ลบ 9.30 จุด มูลค่าการซื้อขายเพียง 32,791 ล้านบาท
แม้ว่าต่างชาติขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ แต่ก็เพียง 200 ล้านบาท คงการ Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 5 อีก 1,311 สัญญา และซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 3 อีก 4,893 ล้านบาท ส่งผลให้ค่าเงินบาทมีทิศทางของการแข็งค่าเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ตลอดชั่วโมงการซื้อขาย
ปัจจัยสำคัญวันนี้
ตัวเลขการส่งออกเดือนต.ค.ของไทย สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าคาด
กระแสเงินทุนต่างชาติยังคงชะลอทั้งซื้อสุทธิ และขายสุทธิต่อตลาดหุ้นไทย
รองนายกฯ ดร.สมคิด และคณะ เดินทางสู่ญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 25-28 พ.ย. เพื่อหารือโครงการรถไฟความเร็วสูง รวมถึงเชิญชวนภาคเอกชนญี่ปุ่นเข้าลงทุนใน 10 อุตฯ ที่รัฐบาลไทยจะผลักดัน
ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวขึ้นเด่น จากกรณีความตึงเครียดระหว่างรัสเซีย และ ตุรกี
กลุ่ม ICT ยังคงอ่อนแอ จนกว่าการประมูลคลื่น 4G ความถี่ 900MHz เสร็จสิ้น ซึ่งจะเริ่มการประมูลวันที่ 15 ธ.ค.
มุมมองต่อตลาด
เราคงมุมมองการลงทุนเป็น “กลาง” วันที่ 7 หลัง SET INDEX ยังไม่ผ่าน 1,400 จุดในช่วง 2 วันทำการที่ผ่านมา การปรับฐานลงแรงของกลุ่ม ICT วานนี้ กดดันบรรยากาศการลงทุน อีกทั้งข่าวเครื่องบินรัสเซียถูกยิงตกในน่านฟ้าซีเรีย โดยตุรกี ภายใต้การซื้อขายที่เพียง 3.2 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้ SET INDEX ยังคงภาพผันผวน เพียงแต่ Downside risk ในมุมมองของเรายังคงจำกัด 1,360-1,370 จุด จะยังทำงานได้อย่างแข็งแกร่งในภาวะการลงทุนที่เปราะบางเช่นนี้ แต่แน่นอนว่า Upside gain จำกัดเช่นกัน จนกว่าจะเห็นความชัดเจนของการประชุมเฟดในวันที่ 16 ธ.ค.
ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงทางการเมืองระหว่าง รัสเซีย และ ตุรกี กลายเป็นประเด็นร้อนที่นักลงทุนทั่วโลกจับตามองอย่างใกล้ชิด สะท้อนกลับมายังราคาน้ำมันดิบ และ ราคาทองคำในตลาดโลกขยับขึ้นเด่นคืนวานนี้ เราประเมินว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะคงอยู่ใน 1-2 วันนี้ พร้อมแนะนำติดตามการประชุมด่วนของ UN ที่กรุงบรัสเซลส์ในวันนี้ ต่อกรณีดังกล่าว
สำหรับการเยือนญี่ปุ่นของรองนายกฯ ระหว่างวันที่ 25-28 พ.ย. จะมีการลงบันทึกความเข้าใจต่อโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย – ญี่ปุ่น เพื่อนำไปสู่การหารือถึงรายละเอียดของโครงการต่อไป ซึ่งทางรองนายกฯ ต้องการให้ได้ข้อสรุปภายในกลางปี 2559 เป็นโครงการขนาดใหญ่ต่อเนื่องจากรถไฟความเร็วสูงไทย – จีน ที่จะเริ่มก่อสร้างในเดือนพ.ค. 2559 เพื่อเป็นการยืนยันการเดินหน้าโครงการลงทุนขนาดใหญ่ตามแผนที่รัฐบาลวางไว้ นำไปสู่การเรียกความเชื่อมั่นภาคเอกชน เราเชื่อว่าจะเห็นการลงทุนตามมาในช่วง 1H59
ด้านปัจจัยต่างประเทศ เรากลับไม่ให้น้ำหนักในช่วงที่เหลือของสัปดาห์นี้ พรุ่งนี้ ทุกตลาดในสหรัฐฯ และอีกหลายแห่งในยุโรป - เอเชีย ปิดทำการ เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า และทุกตลาดในสหรัฐฯ จะปิดทำการครึ่งวันในวันศุกร์ที่ 27 พ.ย. ทำให้กระแสเงินทุนชะลอตัวทั่วโลก ขณะที่ความตึงเครียดในซีเรีย และอียู ยังไม่นิ่ง กลายเป็นปัจจัยที่กดดันจิตวิทยาการลงทุนในช่วงนี้ ให้ชะลอการลงทุนออกไปอีกเช่นกัน
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ “นักลงทุนเข้าเก็งกำไรต่อหุ้นเป้าหมายอีกครั้ง หลัง SET INDEX ปรับฐานลง ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานของหุ้นเป้าหมายไม่ได้รับผลกระทบ”
Top Pick in 4Q15: BMCL / ITD/ TMB/ TPIPL
HOLD: ITD / TPIPL/ ADVANC/ WHA/ IFEC/ INTUCH/ KTB
Speculative Buy: IRPC
ข่าวเด่น