สภาวะตลาดวันที่ 26 พฤศจิกายน 2558 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,070.30-1,074.51 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,200 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,200 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ15 อยู่ที่ 18,260 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 10 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,260 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.59 น.ของวันที่ 26/11/15)
แนวโน้มวันที่ 27 พฤศจิกายน 2558
เศรษฐกิจยูโรโซนอยู่ในภาวะชะงักงันได้เป็นแรงกดดันต่อธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ให้เร่งตัดสินใจขยายขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และ ปรับอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำมากอยู่แล้ว นักลงทุนคาดว่าอีซีบีอาจจะขยาย QE ออกไปในการประชุมวันที่ 3 ธันวาคม และอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากทั่วไปลงสู่ระดับต่ำกว่า -0.3 % จากระดับ -0.2 % ในปัจจุบัน กระคาดการณ์เพิ่มมากขึ้น เมื่อเจ้าหน้าที่อีซีบีกล่าวกับรอยเตอร์ว่าอีซีบีกำลังพิจารณาทางเลือกต่างๆ ก่อนที่จะถึงการประชุมกำหนดนโยบายครั้งถัดไป โดยทางเลือกนี้รวมถึงการเรียกเก็บเงินในอัตราที่แตกต่างกันจากธนาคารพาณิชย์ที่กักตุนเงินสด และการเข้าซื้อตราสารหนี้เพิ่มเติม แนวโน้มดังกล่าวกดดันราคาทองคำให้มีทิศทางอ่อนตัวลงตามสกุลเงินยูโร ซึ่งหนุนดอลลาร์สหรัฐให้แข็งแกร่งมากขึ้น ขณะที่ทองคำได้รับแรงกดดันเพิ่มเติมดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนจากตัวเลขผลผลิตภาคการผลิตและตัวเลขแผนลงทุนทางธุรกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ เพราะตัวเลขดังกล่าวช่วยสนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ ประเด็นดังกล่าวหนุนดัชนีดอลลาร์เพิ่งพุ่งขึ้นแตะ 100.170 ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดในรอบ 8 เดือนครึ่ง
อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยยังคงได้รับแรงหนุนจาก ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับตุรกีทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น โดยรัสเซียส่งระบบขีปนาวุธขั้นสูงไปยังซีเรีย เพื่อปกป้องเครื่องบินรัสเซียที่ปฏิบัติการรบในซีเรีย และรัสเซียประกาศว่ากองทัพอากาศของรัสเซียจะยังคงปฏิบัติภารกิจบินใกล้น่านฟ้าตุรกีต่อไป หลังจากตุรกียิงเครื่องบินรัสเซียตกหนึ่งลำเมื่อวันอังคาร ขณะที่ประธานาธิบดีไตยิป แอร์โดอัน ของตุรกีไม่ได้กล่าวขอโทษยืนยันตุรกีทำเพียงแค่ปกป้องความมั่นคงของตนเอง อย่างไรก็ตาม ปริมาณการซื้อขายอาจจะเบาบาง เนื่องจากตลาดสหรัฐปิดทำการในวันพฤหัสบดีนี้เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า และ ตลาดสหรัฐจะเปิดทำการเพียงครึ่งวันในวันศุกร์นี้
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำว่า เบื้องต้นสำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือ แนะนำซื้อบ้างส่วนเมื่อราคาย่อตัวลงไปบริเวณแนวรับที่ 1,064 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากยืนได้อย่างแข็งแกร่ง จึงเสี่ยงซื้อเก็งกำไรระยะสั้นจากการดีดตัว เนื่องจากหากราคาทองคำมีการปรับตัวลงทำให้มีโอกาสเห็นการดีดตัวในลักษณะ Rebound แต่หากราคาหลุดโซน 1,064 ดอลลาร์ต่อออนซ์ลงไป ให้ชะลอการลงทุนออกไปก่อน โดยแนวรับถัดไปจะอยู่ที่ระดับ 1,053-1,050 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือ ให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือบริเวณแนวต้าน 1,077 หรือ 1,085 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วรอไปซื้อคืนบริเวณแนวรับสำคัญ
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,064 (17,980บาท) 1,053 (17,750บาท) 1,040 (17,580บาท)
แนวต้าน 1,077 (18,250บาท) 1,085 (18,340บาท) 1,091 (18,450บาท)
GOLD FUTURES (GFZ15)
แนวรับ 1,064 (18,120บาท) 1,053 (17,940บาท) 1,040 (17,720บาท)
แนวต้าน 1,077 (18,340บาท) 1,085 (18,480บาท) 1,091 (18,580บาท)
ข่าวเด่น