คำแนะนำ
เสี่ยงซื้อในบริเวณ $1,064(ตัดขาดทุนหากหลุด $1,052) ทั้งนี้ควรพิจารณาการแกว่งตัวของค่าเงินบาทประกอบการตัดสินใจลงทุน
ทองคำ
แนวรับ 1,064 1,052 1,040
แนวต้าน 1,085 1,105 1,120
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำสปอตสหรัฐฯวานนี้ปรับตัวขึ้น 5.61 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากราคาทองคำทำจุดต่ำสุดในบริเวณ 1,052 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เป็นจุดที่เข้าใกล้แนวรับระดับปี ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2010 โดยแม้ตลาดจะมีแรงซื้อเข้ามาบ้าง แต่นักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังเนื่องจากสภาวะแวดล้อมของตลาดทองคายังต้องเผชิญกับกระแสข่าวการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ดังนั้นหากมีประเด็นเรื่องนี้เกิดขึ้นมาอีก ย่อมส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคา ขณะที่สัปดาห์นี้ยังมีตัวเลขสาคัญของสหรัฐฯให้ติดตาม อีกทั้งจะมีการแถลงการณ์ของประธานเฟด ซึ่งเป็นสิ่งที่นักลงทุนต้องให้ความสาคัญทั้งสิ้น
ปัจจัยเทคนิค
ราคาทองคำเริ่มดีดตัวขึ้นหลังจากอยู่ในสภาวะขายมากเกินไปมานาน เบื้องต้นมีเป้าหมายหรือแนวต้านในบริเวณ 1,085 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถปรับตัวถึง ยังมีโอกาสที่จะเผชิญแรงขายออกมา ซึ่งมีแนวรับในบริเวณ 1,064 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน
เก็งกำไรตามกรอบ โดยการเข้าซื้ออาจรอในบริเวณ 1,064 หรือ 1,052 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่การเปิดสถานะขายอาจต้องพิจารณาในบริเวณ 1,085 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข่าวสารประกอบการลงทุน
(+)ดัชนี PMI เขตชิคาโกทรุดเกินคาดในเดือนพ.ย. หลังพุ่งขึ้นในเดือนต.ค. ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเขตชิคาโก ทรุดตัวลงสู่ระดับ 48.7 ในเดือนพ.ย. จาก 56.2 ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. การดิ่งลงของดัชนีได้รับผลกระทบจากการผลิต และคาสั่งซื้อใหม่ที่ร่วงลงอย่างมา นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าดัชนีจะอยู่ที่ระดับ 54.0 ในเดือนพ.ย. ดัชนีที่อยู่ต่ากว่าระดับ 50 บ่งชี้ถึงการหดตัวของภาคการผลิต ขณะที่ดัชนีที่อยู่สูงกว่าระดับ 50 บ่งชี้ถึงการขยายตัวนับตั้งแต่ต้นปีนี้ ดัชนีได้อยู่ต่ากว่าระดับ 50 รวมแล้ว 6 ครั้ง
(-)สหรัฐเผยดัชนีการทาสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายขยับขึ้น 0.2% ในต.ค. สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทาสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ขยับขึ้น 0.2% เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 107.7 ในเดือนต.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐยังคงมีความแข็งแกร่ง ขณะเข้าสู่ช่วงสิ้นปี นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนีจะเพิ่มขึ้น 1.5% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายปี ดัชนีพุ่งขึ้น 3.9% ในเดือนต.ค. ค่าดัชนีที่สูงกว่า 100 บ่งชี้ถึงการขยายตัว ทั้งนี้ ดัชนีการทาสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย เป็นมาตรวัดจานวนสัญญาซื้อบ้านมือสองที่มีการเซ็นสัญญาแล้วแต่ยังไม่ได้ปิดการขาย และโดยปกติแล้วจะใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือนสาหรับการเซ็นสัญญาไปจนกระทั่งปิดการขาย
(-)เฟดดัลลัสเผยภาคการผลิตรัฐเท็กซัสขยายตัวพุ่งแตะ 5.2 ในเดือนพ.ย. ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาดัลลัส เปิดเผยว่า ดัชนีกิจกรรมการผลิตในรัฐเท็กซัสเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 2 สู่ระดับ 5.2 ในเดือนพ.ย. จากระดับ 4.8 ในเดือนต.ค. ดัชนีดังกล่าวบ่งชี้ว่าภาคการผลิตเริ่มมีเสถียรภาพในรัฐเท็กซัส ขณะที่ต้องพึ่งพาการผลิตน้ามันอย่างมาก ภาคการผลิตทะยานขึ้นอย่างมากในเดือนต.ค. หลังจากหดตัวลงในเดือนส.ค. และก.ค. โดยอยู่ที่ระดับ -0.8 และ -1.9 ตามลาดับ ทั้งนี้ ดัชนีที่มีค่าเป็นบวกบ่งชี้ว่าภาคการผลิตอยู่ในภาวะขยายตัว และหากมีค่าเป็นลบบ่งชี้ภาวะหดตัว ดัชนีย่อยด้านการจ้างงานพุ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2014 ขณะที่ดัชนีคาสั่งซื้อใหม่มีเสถียรภาพ
(+/-)IMF ไฟเขียวนาหยวนเข้าตะกร้าสกุลเงิน SDR ตามคาด มีผลต.ค.ปีหน้า ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) มีมติอนุมัติให้นาสกุลเงินหยวนเข้าสู่ตะกร้าสกุลเงิน SDR (Special Drawing Right) ของ IMF โดยมีผลบังคับใช้ในเดือนต.ค.ปีหน้า ส่งผลให้หยวนได้รับการปรับยกสถานะในเวทีการเงินโลก เทียบเท่ากับดอลลาร์ ปอนด์ ยูโร และเยนที่ได้รับอนุมัติให้รวมไว้ในตะกร้า SDR ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ของ IMF ระบุว่าหยวนเข้าเกณฑ์ทุกประการในการเป็นสกุลเงินใน SDR นักวิเคราะห์จากสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดคาดว่า การที่หยวนได้รับการบรรจุเป็นสกุลเงินหนึ่งใน SDR จะทาให้นานาประเทศถือครองหยวนในฐานะสกุลเงินสารองมากขึ้น 1% ในแต่ละปีในช่วง 5 ปีข้างหน้า รวมเป็นมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ หรือเทียบเท่ากับราว 9% ของเงินทุนสารองในธนาคารกลาง ขณะที่ดอลลาร์มีสัดส่วน 65%
ข่าวเด่น