ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ไทยออยล์วิเคราะห์ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มหลังซาอุฯ วางแผนปรับลดกำลังการผลิตปีหน้า แม้ว่าหลายฝ่ายปฏิเสธที่จะร่วมมือ


- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นหลังซาอุดิอาระเบียซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่ในกลุ่มประเทศโอเปก (OPEC) มีแนวโน้มที่จะยอมปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบของตนลงราว 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในปีหน้า หากประเทศภายในและนอกกลุ่มโอเปก (Non-OPEC) ให้ความร่วมมือที่จะปรับสมดุลอุปทาน อย่างไรก็ดี อิหร่าน อิรัก และรัสเซียยังคงปฏิเสธที่จะเข้าร่วม เนื่องจากทั้งสามประเทศมีแนวโน้มที่จะเพิ่มกำลังการผลิตในปีหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งอิหร่าน หลังจากการคว่ำบาตรอันยาวนานได้ยุติลง
  

- นาย Bijan Zangengeneh รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานอิหร่าน ยืนกรานจะเพิ่มกำลังการผลิตในปีหน้า หลังได้รับการยกเลิกการคว่ำบาตรจากชาติตะวันตก โดยจะยินยอมที่จะเจรจาเรื่องการปรับสมดุลอุปทานก็ต่อเมื่อประเทศของตนกลับเข้าสู่ตลาดน้ำมันอย่างสมบูรณ์
เท่านั้น
  

- ทางด้านรัสเซียยังคงปฏิเสธการปรับลดกำลังการผลิตเช่นกัน เนื่องจากประเทศของตนมีปัญหาเรื่องสภาพอากาศที่หนาวเย็นอย่างมาก หากปรับลดหรือหยุดผลิตน้ำมันดิบที่บางหลุมขุดเจาะจะส่งผลให้เกิดความไม่คุ้มค่า นอกจากนี้ รัสเซียยังคงต้องการเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่เป็นอันดับสองรองจากซาอุดิอาระเบีย
  

- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนตัวลงราวร้อยละ 2.3 เมื่อเทียบกับเงินยูโร ซึ่งนับเป็นการปรับลดภายในหนึ่งวันที่มากที่สุดภายในระยะเวลากว่า 6 ปีที่ผ่านมา หลังธนาคารกลางยุโรป (ECB) ออกมาตรการผ่อนคลายน้อยกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ โดย ECB ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากเพียงร้อยละ 0.1 และยืดระยะเวลาสิ้นสุดการเข้าซื้อสินทรัพย์จาก ก.ย. ปีหน้าเป็น มี.ค.  60 ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลงมากกว่าร้อยละ 0.1 และจะเพิ่มขนาดวงเงินเข้าซื้อสินทรัพย์ตามลำดับ

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากผู้ซื้อมีความกังวลเกี่ยวกับอุปทานที่เพิ่มขึ้นสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) ประกาศปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังยังคงอยู่ในระดับสูง ขณะที่อุปสงค์ในตะวันออกกลางยังทรงตัวในระดับดี
  

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมันดิบดูไบ แม้ว่าอุปทานจะยังคงตึงตัว แต่เรือขนส่งน้ำมันในเส้นทางเอเชียและยุโรปที่กำลังเดินทางกลับมายังสิงคโปร์จะส่งผลให้อุปทานมีแนวโน้มสูงขึ้นในระยะเวลาอันใกล้ อย่างไรก็ดี อุปสงค์จากเวียดนาม ไทยและประเทศแถบทะเลจีนใต้ที่ทรงตัวยังคงสนันบสนุนให้ราคาปรับตัวลดลงไม่มากนัก

ทิศทางราคาน้ำมันดิบ

  

ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสสัปดาห์นี้เคลื่อนไหวที่กรอบ 40-45 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 43-48 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

ปัจจัยที่น่าจับตามอง

  

การประชุมล่าสุดของกลุ่มโอเปกพบว่า โอเปกยังคงเน้นกลยุทธ์ในการผลิตในระดับสูงเพื่อรักษาส่วนแบ่งการตลาด โดยจะปรับลดกำลังการผลิตในกรณีที่ผู้ผลิตนอกกลุ่มมีการปรับลดด้วยเท่านั้น นอกจากนั้น อิหร่านยังมีการส่งสัญญาณว่าจะเพิ่มการส่งออกน้ำมันดิบประมาณ 5 แสนบาร์เรลต่อวันโดยทันทีหลังจากที่ได้รับการยกเลิกการคว่ำบาตรและภายหลังจาก 6 เดือนจะมีการเพิ่มปริมาณการส่งออกเป็น 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน
  

ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าโรงกลั่นจะเริ่มกลับมาจากการปิดซ่อมบำรุงแล้วก็ตาม เนื่องจากปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยล่าสุดสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ (สิ้นสุดวันที่ 27 พ.ย. 58) ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 10 ติดต่อกัน โดยปรับเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล ไปอยู่ที่ระดับ 489.4 ล้านบาร์เรล ซึ่งใกล้เคียงกับระดับสูงสุดในเดือน เม.ย. 58 ที่ 490.9 ล้านบาร์เรล
  

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคงมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น เนื่องจากตลาดคาดว่าในการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ในเดือน ธ.ค. นี้ FED จะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นร้อยละ 0.25 เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯในปัจจุบันที่มีแนวโน้มการขยายตัวอย่างต่อเนื่องและอัตราการว่างงานลดต่ำลง ซึ่งสวนทางกับธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่มีการผ่อนคลายเพิ่มเติมในการประชุมล่าสุดโดยปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลงอีกร้อยละ 0.1 และขยายระยะเวลาสิ้นสุดการเข้าซื้อสินทรัพย์ (QE) เป็น มี.ค. 60 จากเดิม ก.ย. 59

 


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 04 ธ.ค. 2558 เวลา : 12:08:43

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 1:43 am